คนส่วนใหญ่ชอบบ้านและสวนแบบแนวสวนของบ้านคนอื่นจำไอเดียดี ๆ เอามาประยุกต์ใช้กับ บ้านและสวน ของตัวเอง จนบางที ไอเดียต่าง ๆ ที่จำมา กระจุกรวมอยู่ในบ้านของเราจนรกไปหมดทำให้เหมือนของไม่มีค่าทำอย่างไรให้บ้านและสวนเหล่านั้นพอมารวมกันแล้วเกิดความลงตัวมีเอกลักษณ์ มีสไตล์เป็นของเราเองไม่เหมือนใครถูกใจเจ้าของ และไม่ต้องมานั่งวุ่นวายไปแอบจำไอเดียเพื่อนบ้านมาใช้กันอีก

ปกติแล้วธรรมชาติกับมนุษย์เป็นสิ่งที่อยู่คู่กันเสมอแต่คนในเมืองหลวงได้ละทิ้งสิ่งเหล่านี้มากขึ้นทุกทีในขณะที่ความเจริญก้าวหน้าของสังคมเมืองยังคง
มีสัญชาตญาณที่เรียกร้องหาธรรมชาติซ่อนเร้นอยู่เสมอ ซึ่งจะเห็นได้จากการพยายามนำเอาไม้ดอกไม้ประดับต่างๆ เข้ามาตกแต่งในบริเวณที่ทำงานร้านค้าและที่อยู่อาศัย ให้เป็นไปตามธรรมชาติมากที่สุดโดยเฉพาะภายในบริเวณบ้านเราสามารถที่จะจัดและตกแต่งให้เป็นไปตามธรรมชาติได้ด้วยตัวของเราเอง โดยเจ้าของบ้านอาจจะเป็นคนลงมือทำเองทีละขั้น ตามความสามารถกำลังเงินและเวลาที่มีอยู่ซึ่งไม่จำเป็นต้องทำให้เสร็จในทีเดียว หรือว่าจ้างมืออาชีพมาตกแต่งให้





หลักเบื้องต้นของการออกแบบสวน

คือทำความรู้จักกับบริเวณของตนเองโดยเขียนตัวบ้านขอบเขตที่ดิ้น (รั้ว) ถนนหน้าบ้านทางเข้าบ้าน โรงรถ ทางเดินต่าง ๆ กำหนดตำแหน่งของต้นไม้ใหญ่ที่จะเก็บรักษาไว้แสดงทิศเหนือ-ใต้ บริเวณที่มีปัญหาต่าง ๆ เช่น ด้านที่ร้อนแดดบริเวณที่ร่มจัดจนปลูกต้นไม้ไม่ได้ บริเวณที่มีน้ำขังแฉะในฤดูฝน หรือด้านที่ต้องการสิ่งบังตา เพราะขาดความเป็นส่วนตัวโดยที่บุคคลภายนอกสามารถมองเห็นภายในบริเวณบ้านเราได้ เป็นต้น





ลักษณะของสวนที่เจ้าของบ้านไม่ต้องดูแลรักษามาก

1. สวนที่มีพื้นปูเป็นพื้นแข็งมากกว่าพื้นอ่อน (สนามหญ้า) ซึ่งจะทำให้ลดเวลาในการตัดหญ้า และการบำรุงดูแลรักษาอื่น ๆ แต่ต้นทุนในการทำสวนลักษณะนี้ค่อนข้างสูงในการก่อสร้างครั้งแรก

2. ลักษณะสวนที่มีการจัดกลุ่มต้นไม้ คือถ้าเป็นสวนหย่อมจะประกอบไปด้วยต้นไม้หลาย ๆ ชนิดแตกต่างกันไป ยิ่งมากชนิด ยิ่งต้องการดูแลรักษามากยิ่งขึ้น แต่ตรงกันข้ามกับการจัดสวนโดยการปลูกต้นไม้ชนิดเดียวกันให้เป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ซึ่งต้องการการดูแลรักษาที่เหมือนกัน จึงง่ายต่อการดูแลรักษา ทำให้ไม่เสียเวลามากนัก

3. ชนิดของต้นไม้ที่ใช้ ต้นไม้บางชนิดต้องประคบประหงมมาก แต่บางชนิดปลูกแล้ว ดูแลรักษานาน ๆ ครั้งก็ได้ จึงไม่จำเป็นต้องเสียเวลาและแรงงานในการดูแลรักษา สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ต้องคำนึงตั้งแต่ต้นเพราะ "สวนจะสวยด้วยการดูแลรักษา"





เมื่อได้ประเภทบริเวณใช้สอยต่าง ๆ และแนวความคิดลักษณะรูปแบบของสวนอยู่ในใจแล้ว จึงเลือกบริเวณที่เหมาะกับการใช้ สอยที่ต้องการลงในแปลน เช่นจัดไม้ดอกสีสวยสดใสไว้หน้าบ้าน ปลูกต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาด้านทิศตะวันตก จัดลานพักผ่อนต่อจากห้องนั่งเล่นในบ้าน ลานซักล้างต่อจากครัว และต้องการรั้วบังสายตาจากบริเวณอื่น ๆ สนามเด็กเล่นก็ควรอยู่ในจุดที่สามารถมองเห็นได้จากภายในบ้าน เพื่อเป็นการป้องกันเมื่อเด็ก ๆ ออกไปวิ่งเล่นในสนาม โดยที่พ่อแม่ไม่จำเป็นต้องไปนั่งเฝ้า อยู่ในบ้านก็สามารถมองเห็นลูก ๆ ได้ และบริเวณจัดสวนโชว์ควรอยู่ในจุดที่แขกผู้มาเยี่ยมจะเชยชมได้ จึงมักจะอยู่หน้าบ้าน ซึ่งการเลือกบริเวณต่าง ๆ เหล่านี้ ดูจากการใช้งานประจำวันของสมาชิก