คนที่เห็นภาพบ้านหลังนี้แล้ว อาจจะแปลกใจ หรือผิดความคาดหมาย ที่บ้านของ Bill Gates ไม่ได้หรูหรา ฟู่ฟ่า อย่างที่คิด ถึงแม้ขนาดมันจะใหญ่โต ไม่แพ้บ้านหลังอื่นๆเลยก็ตาม






บ้านหลังนี้มีขนาดพื้นที่ประมาณ 6,600 ตารางเมตร ตั้งอยู่ในย่าน Medina ริมทะเลสาบวอชิงตัน ที่ดูเหมือนบ้านไม่ใหญ่โตนัก เพราะแยกสร้างเป็นอาคารเล็กๆ หลายๆหลังต่อเชื่อมกัน ห้อมล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่น้อยจำนวนมาก (แต่ถ้าดูภาพขณะก่อสร้าง ก็จะเห็นความใหญ่โตของมัน ซ่อนอยู่ข้างใต้อีกที) มูลค่าของตัวบ้าน(ราคาเมื่อ 6 ปีที่แล้ว) ประมาณ 113 ล้านดอลล์ หรือ 3,700 ล้านบาท เฉลี่ยตารางเมตรละ 5 แสนกว่าบาททีเดียว ซึ่งถ้าดูจากตัวเลขแล้ว บ้านของ Bill Gates ก็น่าจะติดอันดับความแพงกับเขาเช่นกัน




ผิดกับบ้านของนายมูเกซ คนรวยอันดับ 4 ที่สร้างบ้านใหญ่อันดับ 1 แต่โดนวิจารณ์ไปในทางลบด้วยรูปแบบที่ไม่เหมาะสม บ้านของ Bill Gates กลับออกแบบด้วยหลัก ecology house โดยให้ความสำคัญกับเรื่องสภาพแวดล้อม และการใช้วัสดุธรรมชาติ เป็นวัสดุก่อสร้างส่วนใหญ่ เพราะ Gates ต้องการใช้บ้านหลังนี้เป็นเหมือนบ้านพักตากอากาศ จึงได้ออกแบบบ้านในแนว .Pacific lodge ที่มีรูปแบบทาง modern contemporary โดยมี โดย James Cutler เป็นสถาปนิก และใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 7 ปีด้วยความสลับซับซัอนของงานระบบ และความพิถีพิถันของงานตกแต่งภายใน




อย่างไรก็ดี ผมว่าบ้านหลังนี้ก็ไม่เข้าหลักรักษาธรรมชาติเท่าใดนัก เพราะใช้มันมากเกินไป อย่างเช่นใช้เสาไม้ต้นสูงกว่า 70 ฟุต ไม้หลายชนิดสั่งพิเศษมาจากทั่วโลก แต่ก็ยังดีที่เขายังอนุรักษ์ต้นเมเปิลเก่าในที่ดิน อายุกว่า 40 ปีไว้อย่างดี ด้วยระบบตรวจสอบอิเลคโทรนิค ตลอด 24 ชั่วโมง ควบคุมระบบการรดน้ำด้วยคอมพิวเตอร์

การสร้างบ้านหลังนี้ จึงเป็นการสร้างบ้านกึ่งธรรมชาติ คือแนวทางน่าจะเป็นเรื่องธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม แต่ในทางปฏิบัติ หรือรายละเอียดกลับเป็นการสร้างอย่างคนรวย บ้านจึงเป็นแค่ ecology แต่ไม่ sustainable ด้วยเครื่องมือสุดยอดไฮเทคทั้งหลาย แกนำมาใช้หมด แต่ผมก็ถือว่า Bill Gates เป็นคนที่มีสำนึกทางสิ่งแวดล้อมดีคนหนึ่ง และยังใจบุญอีกด้วย มีเงินบริจาคให้การกุศลปีหนึ่งๆโขอยู่





เมื่อดูจากวัสดุก่อสร้างต่างๆ เราจะเห็นว่าทำไมมันถึงแพงได้ปานนั้น
* โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก เขาออกแบบให้แข็งแรงกว่ามาตรฐานขั้นต่ำ ถึง 4 เท่า เหล็กเสริมจึงมากกว่าบ้านธรรมดา 2-3 เท่า
* โครงหลังคาเป็น stainless steel ทั้งหมดรวมทั้งตะปูและน๊อต
* ระบบรักษาความปลอดภัย ได้ซ่อนกล้องวงจรปิดไว้ทั่วบ้าน แม้กระทั่งในผนังหิน และพื้นก็ติดตั้งตัว Sensors ไว้ถี่ยิบ สามารถจับความเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตได้หมด และระบุได้ถึงขนาดว่าใครเป็นใครด้วยน้ำหนักที่เหยียบลงบนพื้น จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่สายไฟของระบบต่างๆทั่วทั้งบ้าน จะมีความยาวรวมกว่า 52 ไมล์
* พื้นทั้งหมด ติดตั้งระบบทำความร้อนไว้ทั่ว
* ระบบเสียง เขาซ่อนลำโพงไว้ในผนังทั่วทั้งบ้าน ไม่ว่าจะเดินไปที่ไหน ก็จะฟังเพลงได้ต่อเนื่อง แม้กระทั่งกำลังแหวกง่ายอยู่ก้นสระว่ายน้ำ
* บันใดใหญ่ ขนาด ยาว 27 เมตร กว้าง18 เมตร 84 ขั้น
* หาดทรายก็ไม่ใช่ของจริงครับ สั่งนำเข้าจากหาดทรายที่มีชื่อเสียงของโลก ที่อื่นๆ



ตัวบ้านยังประกอบด้วยห้องต่างๆ ที่ทำเป็นพิเศษเช่น
* ห้องดูหนัง สำหรับคน 20 คน
* ห้องสมุดขนาด 200 ตารางเมตร
* โถงรับรองแขก ขนาดความจุ 150 คน
* ห้องอาหารอย่างเป็นทางการ
* ห้องประชุม และสำนักงาน
* ห้องออกกำลังกาย
* โรงรถ หลายโรง รวมกันแล้วจอดรถได้กว่า 30 คัน
* สระว่ายน้ำขนาด 5.1 × 18.2 เมตร
* และสนามกีฬาภายนอก ส่วนตัว



การตกแต่งภายใน รู้สึกว่า Bill Gates ค่อนข้างเป็นคนเรียบร้อยพิถีพิถันมาก เช่น ไม้ที่ใช้ทั้งหมดคัดอย่างดี ทุกแผ่นไม่มีตาหรือตำหนิ บานประตูบางบานหนักถึง 800 ปอนด์ ออกแบบซ่อนกลืนไปกับผนัง ระบบไฮเทคทั้งหลาย โดยเฉพาะพวกสวิทซ์และปลั๊กต่างๆ ก็ซ่อนไว้อย่างมิดชิด เพราะใช้ระบบอัตโนมัติทุกอย่าง ไฟก็ไม่ต้องเปิดเอง แค่เดินเข้ามาในห้อง แสงสว่างก็จะติดขึ้นเอง บ้านจึงดูเรียบง่าย ไม่รกรุงรังไปด้วยอุปกรณ์ไฮเทคทั้งหลาย แต่ก็น่าแปลกใจที่ เขากลับชอบงานสไตล์ deconstruction ที่มีรูปแบบคล้ายงานไม่เสร็จ หรือพังเสียหาย เช่นภาพในห้องนั่งเล่น ผมจึงรู้สึกว่า Gates น่าจะเป็นคนที่มีความขัดแย้งในตัวเองพอสมควร