* เช่นนั้นแล้ว เราควรจะมีหลักเกณฑ์อย่างไรในการเลือกให้ได้เฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะกับการใช้งานและที่สำคัญคือ เหมาะกับพื้นที่ของห้องนั้นๆ ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกับประเภทของเฟอร์นิเจอร์กันสักนิด ดีไหมครับ
* โดยทั่วไป เราจะแบ่งเฟอร์นิเจอร์ออกเป็นสองประเภท ก็คือ เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว ( Freestanding Furniture) และ เฟอร์นิเจอร์ติดกับที่ ซึ่งในบ้านเรานิยมเรียกทับศัพท์กันว่า เฟอร์นิเจอร์บิลท์อิน การเลือกเฟอร์นิเจอร์ทั้งสองประเภทนี้ เรามักพิจารณาจากความเหมาะสมของพื้นที่ ลักษณะการใช้งาน และสไตล์การตกแต่งเป็นหลัก
 เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว สวยรอบด้าน อิสระในการจัดวาง
ด้วยจุดเด่นของการเป็นวัตถุที่เป็นสามมิติในตัวมันเอง เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวส่วนมากจะถูกสร้างขึ้นอย่างเรียบร้อยเพื่อให้มองดูสวยงามได้ครบทุกด้าน ดังนั้น ราคาค่างวดของเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวจึงอาจสูงกว่าปกติตรงที่ช่างเฟอร์นิเจอร์จำเป็นต้องทำให้เฟอร์นิเจอร์นั้นๆเรียบร้อยสวยงามในทุกๆด้าน ยกเว้น เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวบางชิ้นที่กำหนดตำแหน่งให้ด้านหลังติดกับผนัง ด้านหลังของเฟอร์นิเจอร์นั้นๆจึงไม่มีการเก็บงานให้ดูสวยงามเรียบร้อย ซึ่งช่วยให้ราคาของเฟอร์นิเจอร์นั้นไม่สูงจนเกินไป

* การเลือกขนาดของเฟอร์นิเจอร์ คือสิ่งสำคัญที่เราควรพิจารณาให้ดีในการตกแต่งห้อง ขนาดและสัดส่วนของห้องไม่ว่าจะเป็นความกว้าง ความยาว หรือความสูงของฝ้าเพดานล้วนเป็นตัวกำหนดในการเลือกขนาดของเฟอร์นิเจอร์
* ห้องที่มีเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่หลายชิ้นอยู่ในห้องที่มีขนาดเล็กและเพดานเตี้ย ย่อมทำให้ห้องนั้นดูอึดอัด คับแคบลงถนัดตา ในทางตรงกันข้าม หากห้องที่มีขนาดใหญ่แต่ไปเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ขนาดเล็กหลายๆชิ้นอยู่ในห้องนั้น ก็จะทำให้ห้องนั้นดูเปรอะ ไม่มีระเบียบ หรือแม้ว่าจะมีระเบียบ แต่กลับแลดูน่าเบื่อไม่น่าสนใจ
* ข้อดีของเฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัวนี้ก็คือ ให้อิสระในการตกแต่งได้อย่างเต็มที่ เพราะเราสามารถโยกย้ายเปลี่ยนแปลงตำแหน่งการจัดวางได้ตามชอบใจโดยไม่ต้องไปวุ่นวายกับช่างเฟอร์นิเจอร์ให้เสียอารมณ์ หรือถ้าเราเกิดเบื่อเฟอร์นิเจอร์ชิ้นไหนขึ้นมา หรือนึกอยากจะจัดห้องใหม่ ก็สามารถทำได้โดยง่าย ซึ่งตรงข้ามกับการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบบบิลท์อินที่ ต้องรื้อทิ้งสถานเดียว