ปัจจุบันแบบบ้านรุ่นใหม่จะออกแบบห้องครัว เป็น 2 ลักษณะ คือ ครัวที่เอาเตาไฟไว้นอกบ้าน เป็นที่ใช้สำหรับปรุงอาหารทั้งผัด ทอด ต้ม จะเรียกติดปากว่า "ครัวไทย" ส่วนครัวที่อยู่ด้านในบ้าน ที่ใช้เป็นที่เตรียมอาหาร ชงกาแฟเล็กๆน้อยๆ มีเตาไมโครเวฟไว้อุ่นอาหาร จะเรียกว่า "ครัวฝรั่ง"



การออกแบบห้องครัวลักษณะนี้

ถือว่าเป็นลักษณะห้องครัวที่ถูกต้อง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นแบบบ้านหลังใหญ่ที่มีพื้นที่มากพอ แต่ถ้าเป็นบ้านหลังเล็ก ที่มีพื้นที่ไม่มาก ห้องครัวไม่สามารถแยกส่วนได้ จึงจำเป็นที่จะต้องกั้นห้องครัวแบบปิด แต่จริงๆ แล้ว การเอาเตาไฟไว้นอกบ้าน ก็ไม่น่าจะเสียพื้นที่มากมายอะไร มีพื้นที่สัก 2 เมตรก็ทำได้แล้ว พูดง่ายๆเอาแค่พอวางเตาไฟได้ก็พอ เพราะต้นตอที่ก่อให้เกิดมลภาวะ ก็คือ เตาไฟนี่แหละ แต่ถ้าไม่มีพื้นที่จริงๆ ก็คงต้องทำห้องครัวแบบปิด เพื่อกันไม่ให้กลิ่นและควันเข้าไปในบ้าน ยิ่งห้องครัวที่อยู่ทางลมด้วยแล้ว (ทิศใต้ กับทิศตะวันตกเฉียงใต้) คงจะเลี่ยงยากที่จะไม่ทำห้องครัวแบบปิด



สาระสำคัญของห้องครัวในทางฮวงจุ้ย

บอกว่า ต้องดูที่เตาไฟเป็นหลัก กฎเกณฑ์ในเรื่องของเตาไฟมีมากมาย ผมสรุปมาให้ฟังคร่าวๆ ดังนี้

  • เตาไฟ ห้ามวางตรงประตูห้องครัว
  • เตาไฟ ห้ามวางพิงกำแพงห้องส้วม
  • เตาไฟ ห้ามวางตรงข้ามกับน้ำ (ซิงก์ หรือก๊อกน้ำ)
  • เตาไฟ ห้ามวางใต้คาน




    การตกแต่งห้องครัว

    ส่วนใหญ่จะเน้นที่ครัวฝรั่งมากกว่า ซึ่งรูปแบบของครัวมักจะไม่ต่างกันเท่าไหร่ และในตำราฮวงจุ้ยก็ไม่ได้ระบุเอาไว้ เพราะหลักฮวงจุ้ยจะเน้นไปที่เตาไฟโดยตรง ถ้าเตาไฟอยู่นอกบ้านแล้ว การพิจารณาครัวในบ้านแทบจะไม่ต้องดูอะไร ยกเว้นเรื่องของสี ที่ตำราระบุเอาไว้ว่า สีห้องครัวที่ดี ควรใช้สีน้ำตาล เหลือง หรือสีอิฐ ซึ่งเป็นที่ธาตุดิน สีน้ำตาลที่เป็นสีของธาตุดิน จะถูกโฉลกกับห้องครัวมากตามหลักฮวงจุ้ย ทำไมต้องใช้สีนี้ เหตุผลก็เพราะ ห้องครัวถือเป็นธาตุไฟ การใช้สีธาตุดิน ก็จะช่วยลดความร้อนของธาตุไฟลง ส่วน สีที่ห้ามหรือไม่ควรใช้ในห้องครัว ก็คือ สีน้ำเงิน สีดำ ซึ่งเป็นสีของธาตุน้ำที่พิฆาตธาตุไฟ นั่นเอง
    คงพอมองเห็นภาพแล้วนะครับว่า ลักษณะห้องครัวที่ดีเป็นอย่างไร ลองเหลียวมองห้องครัวดูสิว่า เข้าหลักเกณฑ์ในทางฮวงจุ้ยหรือเปล่า ถ้าไม่เข้าก็ลองปรับกันดู เพราะความหมายของครัว ก็คือ การกินดีอยู่ดีของคนในบ้าน