หลักการของผมนั้น ที่จริงก็เป็นหลักที่ได้นำเสนอแนวคิดต่างๆ ไปอยู่เรื่อยๆแล้ว คือการจัดให้เป็นธรรมชาติ ใช้ต้นไม้ที่ราคาไม่แพง ทนทาน ดูแลรักษาง่าย และใช้ทุกอย่างผสมผสานกันให้เกิดสมดุล
ไม้ปะดับกลุ่มหน้า ปะปนกันไปหลายอย่างเป็น 10 ชนิด ต้นพิกุลด้านหลัง ก็โตมาก ใบทึบ และไม่ค่อยเป็นทรงแล้ว
ก่อนจะดูสวนใหม่ พาไปดูสวนเก่า ก่อนปรับปรุงใหม่กันก่อน ที่จริงสวนที่เป็นอยู่นั้น ก็ไม่ถึงกับโทรม หรือขี้เหร่นัก เพียงแต่ว่ามันเริ่มไม่เข้ารูปเข้ารอย เพราะตั้งแต่ผมจัดมาแต่แรก นี่ปาเข้าไป 19 ปีแล้ว และไม่ได้ปรับปรุงใหม่ อีกเลย(ไม่ค่อยได้อยู่บ้าน) แต่มีสมาชิกในครอบครัวหลายๆคน ช่วยกันปลูกต้นไม้แบบตามใจฉัน จนมันเปะปะไปหมด แต่ละคนก็ชอบต้นไม้ไม่เหมือนกัน (ขอนินทาซะหน่อย แต่ไม่เอ่ยนามนะครับ) คนนึงชอบปลูกโป๊ยเซียน กับไม้ชอบแดด แต่มีพื้นที่อยู่นิดเดียว ที่โดนแดดทั้งวัน อีกคนนึง ชอบเอาไม้แดดไปไว้ในบ้าน ส่วนไม้ในร่มก็ชอบเอาไปไว้นอกบ้าน อีกคนนึงก็ชอบปลูกสวนครัว โดยเฉพาะมะละกอพันธุ์ต่างๆ มีรอบบ้าน ที่ไหนว่างเป็นไม่ได้ และเป็นนักเพาะต้นไม้ ต้นไหนแตกหน่อก็เพาะใส่กระถางไปทั่ว อีกคนก็สะสมไม้หายากมาเรื่อยๆ เป็นไม้ยืนต้นซะส่วนใหญ่ ลงดินไปก็เบียดที่กันไปหมด เมื่อเป็นดังนี้ ก็เลยได้เวลาเสียทีที่จะจัดการปรับปรุงสวนซะที และก็แก้ปัญหาอื่นๆ ไปด้วยพร้อมกันเช่น
- พื้นที่หลายส่วน หญ้าตาย เพราะแดดไม่พอ หรือน้ำท่วมขังเวลาฝนตก เพราะที่ดินถมมานานมันก็ทรุด โดยเฉพาะส่วนที่เป็นสระน้ำเดิม ถมเพิ่มมา 2 รอบแล้ว
- ต้นไม้ใหญ่ ไม่ค่อยเป็นรูปทรง เพราะหนีร่มไปหาแดดกัน บางต้นก็ทึบเกินไป จนแดดส่องไม่ถึงพื้น
ลีลาวดี ยังไม่โต กับไม้กระถางที่วางไปเรื่อยเปื่อย หญ้าก็โตเป็หย่อมๆ และตายเป็นหย่อมๆเช่นกัน
- ไม้ประดับเล็กๆ เริ่มปะปนกันจนไม่สวย (ถ้าอยู่เดี่ยวๆมันก็สวย แต่พอมาตั้งรวมกัน มันไม่เข้ากัน)
- ไม้บางอย่างเผลอไป ไม่ได้ดูจนกลายพันธุ์ เช่นบอนไซของต้นไทร เผลอจนกลายเป็นไทรต้นโต เพราะรากมันลงดินจนกระถางแตก แล้วก็โตเอาโตเอา
กาบหอยแครงก็โตเอาๆ จนบังอ่างบัวหมด
สนามด้านหนึ่งมีแต่ทราย หญ้าตายหมด แต่อีกด้านหญ้ายังเขียวดี
นี่ก็เป็นตัวอย่างของปัญหา ที่คงจะเกิดขึ้นกับสวนทุกๆที่ ที่จัดมานาน เพราะธรรมชาติมันก็คงไม่ต่างกันนัก ผมเลยเขียนให้ละเอียดหน่อย เผื่อได้ประโยชน์กับคนอื่นๆ และทะยอยเขียนให้อ่านนะครับ ตอนนี้สวนยังจัดไม่เสร็จ เหลืออีกประมาณ 20 % ถึงจะเรียบร้อย ติดตามอ่านไปเรื่อยๆนะครับ
