ที่โครงการ 2 แห่งนี้ถือได้ว่าเป็น “Tree Zone” หรือแหล่งรวบรวมพันธุ์ไม้ต่าง ๆ มากมาย นอกเหนือจากไม้ดอก ไม้ประดับ ไม้ใบนานาพันธุ์แล้ว ในโครงการนี้ยังมีของแต่งบ้านและสวนน่ารัก ๆ มากมาย ตุ๊กตาดินเผางานฝีมือที่คุณบอยนำเสนอก็มีความน่าสนใจและดึงดูดใจนักแต่งสวนทั้งหลายเช่นกัน

นักจัดสวนหลาย ๆ คนให้ความสนใจกับองค์ประกอบของสวนควบคู่ไปกับต้นไม้เพราะองค์ประกอบต่าง ๆ เหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นน้ำพุ หิน ตุ๊กตา รูปปั้น ฯลฯ ช่วยสร้างชีวิตชีวาให้กับสวนได้อย่างนึกไม่ถึง บางครั้งองค์ประกอบเหล่านี้ช่วยเล่าขานเรื่องราวต่าง ๆ ในสวน


เรื่องราวชีวิตของเจ้าของร้านวัยหนุ่มคนนี้ถือได้ว่า “บังเอิญ” ที่ได้มาอยู่ตรงนี้ ถึงแม้ว่าคุณพ่อและพี่ชายของเขาจะปั้นตุ๊กตานี้อยู่ก่อนแล้ว แต่คุณบอยก็ไม่เคยคิดจะเอาดีทางด้านนี้เลย เขาเลือกที่จะเรียนคณะวิทยาศาสตร์ สาขาคอมพิวเตอร์ จนจบออกมาทำงานเกี่ยวกับ Software ในบริษัทคอมพิวเตอร์แห่งหนึ่ง

ฟังดูแล้วแทบจะไม่เกี่ยวกับงานที่เขาทำ (จนรัก) ตอนนี้เลย คุณบอยเผยว่า “ตอนนั้นยังไม่ชอบงานปั้น ก็เลยเรียนคอมพิวเตอร์ไงครับ” แต่สุดท้ายงานที่เขาคิดว่ารัก (จึงทำ) อย่างคอมพิวเตอร์กลับไม่รุ่งเท่าที่ควร จึงหันเหมาช่วยงานของครอบครัว จนสามารถเปิดร้านได้ที่ “ทำเลทอง” จตุจักรแห่งนี้

“ตอนนั้นมา Survey จตุจักรแล้ว ผมเห็นว่ายังไม่มีอะไรแบบนี้ ก็เลยคิดว่าน่าจะทำดู” คุณบอยย้อนหลังไปถึงตอนเปิดร้าน ปัจจุบันสินค้าใน “บ้านดินปั้น” แห่งนี้ประกอบด้วยของแต่งสวนต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นกรงนกแขวนต้นไม้ โมบายประดับสวน น้ำพุ ตุ๊กตา-ซึ่งก็ทำมาจากวัตถุดิบที่แตกต่างกันออกไป


วัตถุดิบ” แบ่งออกได้เป็น ดินเผา เรซิน และหินทราย โดย 2 อย่างแรกนั้นจะทำเอง ส่วนอย่างหลังเป็นลูกพี่ลูกน้องของคุณบอยเอามาลงซึ่งเป็นงานบล็อคทั้งหมดเช่นเดียวกับงานเรซิน ซึ่งใน 1 แบบสามารถมีจำนวนเป็นร้อย ๆ ตัวก็ได้ แตกต่างไปจากงานดินปั้น

“ถ้าคนชอบจริง ๆ ส่วนใหญ่งานปั้นจะมีคุณค่ามากกว่า เพราะแต่ละอันมันจะมีชิ้นเดียว ทำออกมาแล้วก็ขายให้คุณคนเดียวแล้วก็ไม่มีอีก ทำออกมาใหม่แบบเดิม แต่รายละเอียดมันก็คงไม่เหมือนเดิม ส่วนงานปั๊ม งานบล็อคนั่น มันก็เหมือนกันหมด แบบนึงอาจจะมีเป็นร้อย ๆ ตัว” คุณบอยแสดงความเห็น

ตุ๊กตาดินเผาเหล่านี้จะปั้นมาจากดินทางเหนือ เช่น ดินโคราช ดินเชียงใหม่ หรือดินลำพูน เพราะว่าดินจากแหล่งเหล่านี้จะหยาบหน่อย เมื่อเอามาร่อน แล้วเอาไปนวด ก็สามารถนำมาปั้นได้ง่าย แตกต่างจากดินกรุงเทพฯหรือดินปากเกร็ดที่ละเอียดมาก จึงเอามาปั้นเป็นตัวไม่ค่อยได้


หลังจากปั้นเสร็จแล้ว คุณบอยบอกว่าต้องนำเอาตุ๊กตาเหล่านั้นไปทำให้แห้งก่อนโดยการตากแดด ขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 2 วัน จากนั้นจึงนำไปเข้าเตาเผาได้ เผาอยู่ 2-3 วันก็จะได้ตุ๊กตาดินเผาที่สมบูรณ์แบบ สวยงามตามสีธรรมชาติของดินโดยที่ไม่ต้องลงสี

“การเผานี่ เรามี 2 แบบนะครับคือเตาไฟฟ้ากับเตาฟืน ซึ่งก็ออกจะมาคนละสไตล์แล้วแต่คนชอบ เตาไฟฟ้า สีจะเรียบเป็นเนื้อเดียว กำหนดอุณหภูมิได้ว่าจะให้ออกมาสุกหรือให้ออกมาดิบขนาดไหน มีความคงทนกว่า ส่วนเตาฟืนนั้น สีจะสวยกว่าเพราะมันสุกไม่เท่ากัน จึงมีลูกเล่น สีเข้มสีอ่อนในตัวได้ แต่ข้อเสียคือถ้าไฟแรงมากก็จะไหม้” คุณบอยอธิบาย

ในเรื่องของ Design นั้น ตอนเริ่มแรกจะใช้วิธีดูจากแบบแล้วทำตาม แต่เมื่อสินค้าเริ่มขายดี คุณพ่อและพี่ชายของคุณบอยจึงไปเรียนเพิ่มเติมจากอาจารย์ดุษฎี จนพัฒนางานออกมามีจุดเด่นและเอกลักษณ์เฉพาะตัวถือได้ว่า “เป็นสไตล์ตัวเองได้แล้วนะ เพราะจะว่าไปตอนนี้ก็มีคนมาก็อปเราอีกทีแล้ว” คุณบอยว่า


เอกลักษณ์ของ “บ้านดินปั้น” คุณบอยบอกว่า “งานปั้น งานตุ๊กตาดินเผาของเราจะออกมาแนวสามารถจัดไว้ในสวนได้ ผมจะเน้นอารมณ์ที่ดูแล้วสบายใจมากกว่า เป็นดินเผาที่หัวเราะได้” ซึ่งก็เห็นได้จากชิ้นงานตุ๊กตาลิงแลบลิ้นถูกแขวนคอ ทหารที่ดูน่ารักมากกว่าเข้มแข็ง ตุ๊กตาเด็กหน้าตายิ้มแย้ม เป็นต้น

สิ่งที่คุณบอยอยากจะบอกก็คืองานแบบนี้ถึงแม้ตลาดจะถือว่า “บูม” แต่คนที่เข้าใจงานยังมีน้อย คำถามของลูกค้าจะออกมาในแนว “ทำไมถึงแพง?” คุณบอยชี้แจงว่า “คุณค่าของมันคือเป็นงานที่ทำด้วยมือ สร้างออกมากินใจ ซึ่งผมว่ามันคุ้มกับราคา ผมว่ามันเป็นงานอาร์ทชิ้นนึงที่ปั้นขึ้นมาแล้วโชว์ในหอศิลป์ ราคามันก็ต้องประมาณนั้น เพียงแต่ว่าเรามาขายในตลาดเท่านั้นเอง”

ร้านนี้ดูแลโดยคุณบอย, คุณพิมพ์ดาวหรือคุณปุ้ม-แฟนสาว พี่ชายซึ่งผลัดกันมาเฝ้าร้าน ส่วนหน่วยปั้นก็จะประกอบไปด้วย คุณพ่อ พี่ชาย คุณบอยไปจนถึงเพื่อน ๆ ตุ๊กตาดินเผาอาจจะเป็นองค์ประกอบที่สร้างความมีชีวิตให้สวน ร้านนี้ก็มีความรัก ความผูกพันของคนในครอบครัว รวมไปถึงเพื่อนเป็นองค์ประกอบเพื่อจะถ่ายทอดความมีชีวิตของร้านเช่นกัน