ตัวเลขแบบนี้เรียกเสียงฮือฮาได้ไม่ยากเพราะสวนกระแสเศรษฐกิจฝืดเข้าอย่างจัง แถมเฟอร์นิเจอร์ยังเป็นธุรกิจเกี่ยวเนื่องจากอสังหาริมทรัพย์ที่แนวโน้มปี นี้ "ฟ้าไม่เปิด"

"วิกฤตเศรษฐกิจรอบนี้ ตลาดต่างประเทศจะแย่แต่ตลาดในประเทศ ค่อนข้างแข็งแรง ซึ่ง เอส.บี.ฯมีสัดส่วนขายในประเทศ 70% และส่งออกไปยัง 40 ประเทศมีสัดส่วน 30% เรายังโชคดีอีกสำหรับตลาดส่งออกที่ยอดขายส่วนใหญ่กระจายอยู่ในตลาดใหม่ เวียดนาม อินเดีย อาเซียน แม้แต่เป้าส่งออกเราก็คาดว่า จะโตได้ประมาณ 5%"

อย่าง ไรก็ตาม วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ส่งแรงกระเพื่อมมาถึงบอร์ดบริษัท เช่นเดียวกัน นำไปสู่การสรุปนโยบาย เพื่อรับมือเศรษฐกิจขาลงในปีนี้ว่า เอส.บี.ฯ จะต้องทำแผนการตลาดเชิงรุกเพื่อรักษาสถานะความเป็นผู้นำตลาดเฟอร์นิเจอร์ที่ คาดว่ามีมูลค่ารวมปีละ 2 หมื่นล้านบาท

สิ่งแรกที่เป็นรูปธรรมคือการ เพิ่มงบฯ การตลาด จาก 150 เป็น 200 ล้านบาทในปีนี้ ปูพรมทุกสื่อทั้งสื่อออนแอร์ สื่อสิ่งพิมพ์ และเป็นงบฯ ที่จะเข้าไปซัพพอร์ตให้กับตัวแทนจำหน่ายโดยตรงในต่างจังหวัด

สำหรับ ช่องทางจัดจำหน่าย แบรนด์ Koncept ปูพรมได้ 200 สาขา เจาะกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่หรือตลาดกลาง-ล่าง ครอบคลุมลูกค้าคอนโดฯ-บ้านระดับราคา 1-4 ล้านบาท การตลาดเชิงรุกคือเน้นความคุ้มค่า หรืออีกนัยหนึ่งเป็นแมสมาร์เก็ตติ้ง