การออกแบบห้องรับแขก

ห้องรับแขกจะเป็นห้องแรกที่เข้ามาถึง ควรมีขนาด 12 ตารางเมตรขึ้นไป แล้วแต่ขนาดของบ้าน ควรมีลักษณะ โล่ง ไม่ควรวางเฟอร์นิเจอร์กีดขวางทางเข้า และไม่ควรหัน หลังเก้าอี้ให้กับประตู

ประตูหน้าต่างในส่วนนี้ควรเปิดโล่ง เพื่อความโอ่ โถงและสามารถชมทิวทัศน์ภายนอกได้ เพื่อความงามและ เป็นจุดเด่นของตัวบ้าน

ในส่วนนี้อาจมีตู้โชว์ของเจ้าบ้านหรือตู้วางทีวี และ เครื่องเสียงก็ได้

การจัดชุดรับแขกจะวางเป็นรูปตัวยูหรือตัวแอลก็ได้แล้วแต่ขนาดของห้องให้มีที่นั่งประมาณ 4-8 ที่

แสงสว่างมักจะให้จากไฟเพดาน โดยเป็นโคมไฟ ห้อย หรือซ่อนตามกล่องไฟรอบเพดาน อาจจะเป็นไฟกิ่ง บริเวณผนัง สำหรับส่องภาพ หรือสิ่งที่ต้องการเน้นเป็น พิเศษก็ได้

สำหรับบ้านขนาดใหญ่ ห้องรับแขกควรอยู่ติดกับ ห้องพักผ่อน และห้องรับประทานอาหาร



การออกแบบห้องนอน

ห้องนอนที่ดีควรอยู่ทางทิศตะวันออก และทางทิศ ใต้ เพื่อหลีกเลี่ยงการรับแสงแดดในตอนบ่ายของทิศตะวัน ตก และสามารถรับลมธรรมชาติได้ การจัดพื้นที่ใช้สอยแบ่ง ออกได้ 2 ส่วน คือ

ส่วนแรก เพื่อการใช้งานส่วนตัว เช่น ผลัดเปลี่ยน เสื้อผ้า แต่งตัวทำงาน ส่วนเหล่านี้ควรอยู่ใกล้กับทางเข้า หรือ ใกล้กับห้องน้ำ

ส่วนที่สอง สำหรับนอนหลับพักผ่อน ซึ่งการจัดวาง เตียงนอนไม่ควรให้หัวเตียง หรือปลายเตียงอยู่ใกล้หน่าต่าง มากเกินไป เพราะลมที่พัดโดนศีรษะผู้นอนอาจรู้สึกไม่สบาย หรือถ้าติดแอร์ก็ไม่ควรวางปลายเตียงหันหน้าไปทางเครื่องปรับ อากาศ เพราะลมจะพัดเข้าจมูกเวลานอน อาจจะเป็นหวัดได้ ที่สำคัญควรคำนึงถึงขนาดของเฟอร์นิเจอร์ให้สัมพันธ์กับขนาด ของห้องด้วยตามสัดส่วนที่เหมาะสมด้วย



 ผ้าม่านในห้องนอน

ม่านเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อความเป็นส่วนตัวภายในห้อง นอน ตามหลักที่ถูกต้องควรจะมีม่าน 2 ชั้น

โดยให้ม่านชั้นในเป็นม่านโปร่ง เอาไว้บังแสงแดด เวลาเช้า จะช่วยกรองความร้อนบางส่วน และยังมีแสงสว่าง เข้ามาในตัวห้องได้ ทำให้ไม่ต้องเปิดไฟ

ส่วนม่านชั้นนอกควรจะเป็นม่านทึบ เพื่อไม่ให้คน ภายนอกมองเข้ามาภายในห้องได้

ในกรณีที่ต้องการประหยัด ก็สามารถใช้เฉพาะม่าน ทึบก็ได้ แต่การใช้ม่านภายในห้องนอนควรจะใช้สีอ่อน เพื่อ ให้ดูโปร่งและไม่อึดอัดจนเกินไป



 การตกแต่งห้องนอนลูก

สิ่งที่ต้องคำนึงถึงได้แก่ ประโยชน์ใช้สอยที่เหมาะสม กับลูก สัดส่วนของสรีระเด็กจะไม่เหมือนกับผู้ใหญ่ ดังนั้น เฟอร์นิเจอร์สำหรับผู้ใหญ่จะมาใช้งานกับเด็กไม่ได้ เพราะจะ ไม่สัมพันธ์กับสรีระของเขา อีกประการหนึ่งเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ต้องลดความแหลมคมด้วยเพื่อลดแรงกระแทก ประกอบกับ การนำสีสันมาใช้บ้างเป็นจุด เพื่อให้ลูกน้อยเกิดความตื่นเต้น ร่าเริง และต้องการเรียนรู้ ไม่รู้สึกเบื่อหน่ายเหมือนกับห้อง นอนผู้ใหญ่