“ผมไปดูที่มาหลายแห่ง แต่ชอบที่นี่ที่สุด เพราะค่อนข้างสงบ เป็นส่วนตัวดี และอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก ขับรถใช้เวลาประมาณ 30นาทีก็ถึง หลังจากซื้อที่ดินได้ไม่นานก็ปลูกบ้านเลย ผมอยากได้บ้านที่อยู่ง่ายๆ ไม่ต้องลงทุนมาก ไม่ต้องใหญ่โต และดูแลรักษาง่ายด้วย
มุมนั่งเล่นบนระเบียงที่ยื่นออกจากชานพักบันได ส่วนนี้จะมองเห็นระดับพื้นที่เอียงลงไปในหุบเขา ที่เห็นไกลๆด้านล่างคือผืนนาขั้นบันไดซึ่งชาวบ้านในแถบนี้ทำกันมาช้านาน
บ้านมีรูปทรงเรียบๆแต่จุดเด่นอยู่ที่หลังคา “ผมบอกช่างว่าอยากได้หลังคาที่มีปลายโค้ง เพราะชอบบ้านแบบจีนและญี่ปุ่น หารูปมาให้ช่างทำตามเลยครับ”
พื้นที่อเนกประสงค์ของบ้าน พื้นห้องเป็นซีเมนต์ขัดมัน ผนังห้องผสมสีฝุ่นในเนื้อปูนก่อนฉาบ เจ้าของบ้านบอกว่าให้ช่างไปหาตัวอย่างสีมาหลายๆสี ในที่สุดก็เลือกสีส้ม โครงหลังคาเป็นเหล็กทาสีดำ
เคาน์เตอร์ส่วนเตรียมอาหารออกแบบเป็นสองระดับ ส่วนที่เตี้ยกว่าใช้เป็นโต๊ะอาหารได้ จึงไม่จำเป็นต้องวางโต๊ะให้เปลืองพื้นที่ใช้สอย นอกจากนี้ยังทำให้บ้านดูโล่งกว้างด้วย
ส่วนนั่งเล่นในห้องนอนเล็กจัดวางเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวเท่าที่จำเป็น ซึ่งมีทั้งที่เคยใช้งานในบ้านที่กรุงเทพฯ และบางตัวก็เลือกซื้อในเชียงใหม่
ห้องนอนเล็ก วางเตียงเดี่ยวสำเร็จรูปซึ่งมีที่นอนซ่อนอยู่ด้านล่าง สามารถเลื่อนออกมาใช้งานได้ เวลาไม่ใช้ก็เลื่อนเก็บ ไม่เกะกะดี
ห้องนอนใหญ่ก็ตกแต่งคล้ายๆห้องอื่น ไม่ว่าจะเป็นพื้น ผนัง และการโชว์โครงหลังคา จะต่างกันก็ตรงที่การเลือกใช้เตียงนอนเหล็กดัดสำเร็จรูป บานเกล็ดไม้ตรงประตูบานเลื่อนกระจกใสที่เห็นนี้เจ้าของบ้านเป็นผู้ออกแบบเอง แล้วให้ช่างในท้องถิ่นทำให้ “ลักษณะก็คือการตีระแนงไม้ให้เหลื่อมกัน เวลาเลื่อนซ้อนกันมันก็จะบังกันพอดี ใช้ไม้ฉำฉาทำ จึงมีน้ำหนักเบา เลื่อนง่าย เป็นส่วนที่ผมภูมิใจมาก ใครมาก็ชอบ ที่สำคัญทำความสะอาดง่าย”
อีกมุมหนึ่งของห้องนอนใหญ่ทำผนังก่อฉาบปูนเปลือยดูโดดเด่นท่ามกลางผนังสีส้ม “ผมเลือกซื้อตู้แบบจีนจากกรุงเทพฯ ดูเข้ากับรูปเสือที่เพื่อนให้เป็นของขวัญตอนขึ้นบ้านใหม่ ส่วนม้าเซรามิกเป็นของสะสมที่ชอบ”
ห้องน้ำแบบเปิดโล่ง จงใจออกแบบส่วนโถสุขภัณฑ์ให้ตรงกับช่องแสงกระจกใสซึ่งมองเห็นวิวภายนอก พื้นทำเป็นสองระดับ ส่วนแรกตรงกับประตูห้องเป็นซีเมนต์ขัดมันแต่งด้วยแผ่นกระเบื้องเคลือบเป็นรูปใบบัวและดอกบัวซึ่งเป็นความคิดของเจ้าของบ้าน
