จึงจากการประเมินว่า ตลอดปีนีจะมีโครงการเกิดขึ้นรวม 40,000 หน่วย อยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 38,273 หน่วย ทำให้จะมีมูลค่ารวมตลอดปีนี้ประมาณ 150,000 ล้านบาท

สำหรับในช่วง 5 เดือนแรกปี้นี้ ภาคอสังหาริมทรัพย์ปรับลดลงทั้งเชิงมูลค่าและปริมาณ โดยเฉพาะกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยมูลค่าลดลงร้อยละ 24 ปริมาณลดลงร้อยละ 44 ฉะนั้นหากเศรษฐกิจไทยปีนี้ยังติดลบจะทำให้ราคาบ้านยังมีแนวโน้มปรับลดลงหลังจากราคาบ้านโดยเฉลี่ยที่ออกสู่ท้องตลาดช่วง 5 เดือนแรกปีนี้มีราคาอยู่ในระดับประมาณ 3.651 ล้านบาทต่อหน่วยสูงกว่าปี 2551 ที่ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 2.718 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่า บ้านราคาค่อนข้างต่ำแทบจะไม่สามารถก่อสร้างได้ในภาวะเศรษกิจถดถอย เนื่องจากวัสดุก่อสร้างและต้นทุนสูง โดยบ้านราคา 1-2 ล้านบาท จะมีสัดส่วนสูงถึง 1 ใน 3 ของตลาดรวม แต่จำหน่ายได้น้อยมาก เพราะเป็นกลุ่มผู้ที่มีรายได้ระดับกลางถึงล่างเป็นผู้ซื้อกำลังซื้อลดลง ขณะที่บ้านที่ขายได้ดีเป็นกลุ่มราคา 3-5 ล้านบาท เพราะเป็นกลุ่มผู้มีรายได้สูง มีเงินออกสูงยังสามารถซื้อได้แม้เศรษฐกิจมีปัญหา