บ้านพักตากอากาศแห่งนี้ เน้นตกแต่งสไตล์ Modern Rustic คือไม่เป็นไทยและเอเชียมากเกินไป แต่ดูแล้วสบายๆ ลงตัว เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ตกแต่งส่วนมากสั่งนำเข้าจากประเทศพม่า ไม่ใช้เฟอร์นิเจอร์แบบธรรมดาทั่วไป ช่วยให้บรรยากาศห้องโดยรวมดูไม่น่าเบื่อ พร้อมเพิ่มสีสันบนผนังส่วนต่างๆ ให้ดูสดใสอินเทรนย์?

แม้ที่นี่จะเป็นคอนโดฯ มือ 2 ที่เจ้าของบ้านซื้อต่อมาอีกที ทว่า เมื่อเข้าไปแล้วแทบไม่น่าเชื่อว่ามีคนเคยอยู่มาแล้ว ทั้งนี้ เพราะคุณน้อยได้ออกแบบและจัดพื้นที่ส่วนต่างๆ ของห้องเสียใหม่ เริ่มจากห้องน้ำกับห้อนนอนที่เคยแยกเป็น*** ส่วน ก็นำมารวมไว้ในห้องเดียวกัน เพื่อความสะดวกสบายเมื่อใช้สอย ประตูครัวจากที่เป็นแบบบานพับ ก็ยุบมาเป็นบานเลื่อนแทน เพื่อให้แขกที่มาเยือนรู้สึกอบอุ่น คุ้นเคยกับเจ้าของบ้านมากขึ้น

และด้วยพื้นที่ใช้สอยครบวงจร และมีมากถึง 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ การดีไซน์แต่ละส่วนจึงเน้นสีสันและความต่างที่ลงตัว เพื่อให้เจ้าของบ้านรู้สึกไม่เหงา เหมือนมีเฟอร์นิเจอร์เป็นเพื่อน

ในห้องลีฟวิ่งรูม พื้นผนังด้านหนึ่งทาด้วยสีอิฐแดง อีกด้านทาสีชาเขียวญี่ปุ่น แม้จะเป็นเป็นคู่สีที่ออกโทนขรึม ทว่า แฝงไว้ด้วยความมีเสน่ห์ สดใส ก็เลยหยิบสองสีนี้มาเบรกกัน ถือว่าลงตัวพอดี เพราะถ้าใช้สีใดสีหนึ่งเพียงอย่างเดียวคงดูไม่สมดุล ยิ่งเมื่อผสมผสานกับเฟอร์นิเจอร์ภายในห้อง ที่แต่ละชิ้นมีคาแรกเตอร์ต่างกัน ทำให้แต่ละมุมมีเสน่ห์มากขึ้น ทั้งนี้ เขายังได้นำภาพศิลปะสไตล์โมเดิร์นอาร์ตมาแต่งเพิ่ม แทรกสีสันกึ่งแอบสแตร็ก บ้าง ก็ช่วยให้ดูทันสมัยมากกว่าเดิม

บ้านสวย! อารมณ์รีสอร์ต


อย่างไรก็ตาม ในส่วนของห้องนอนใหญ่ เจ้าของชอบแบบสไตล์โรแมนติก อินทีเรียจึงเน้นดีไซน์ผนังเป็นสีเหลืองมัสตาร์ด สลับแต่งกับเฟอร์นิเจอร์สีขาวและดำ กลางห้องตั้งเตียงสี่เสาโบราณ รวมทั้งมีประตูกระจกเลื่อนเปิดสู่ระเบียงชานด้านนอก สำหรับรับแสงแดดอุ่นๆ และทำให้ห้องดูกว้าง ทั้งช่วยลดพลังงานอีกทางหนึ่งด้วย

ส่วนห้องนอนที่ 2 เป็นห้องนอนสำหรับแขกที่มาพัก บางครั้งเราก็ไม่รู้ว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เลยดีไซน์เป็นกลางๆ ใช้โทนสียูนิเซ็กต์ แนวสีฟ้าหม่นๆ ผสมสีน้ำตาล คือห้องเป็นสีน้ำตาล เครื่องนอนและของตกแต่งต่างๆ เป็นสีฟ้า เวลามองแล้วให้อารมณ์สดใส สบายตา สร้างบุคลิกให้แตกต่างด้วย ห้องน้ำสไตล์โคโรเนียล ผสมกลิ่นอายโมร็อกโก?

เมื่อเหม่อมองออกไปด้านนอก เราจะเห็นสถานีรถไฟฟ้าอารีย์ อยู่ใกล้แค่เอื้อม เรียกว่าการเดินทางสะดวกสบายจริงๆ ทว่า พลันสายตาก็ไปสะดุดกับไม้ที่ตีโค้งยาวเป็นพื้นระเบียง บริเวณชานด้านนอก เมื่อถามเขาจึงตอบว่า

?เดิมทีเป็นพื้นปูน เดินแล้วรู้สึกเจ็บเท้า กลางวันก็ร้อนด้วย เลยเอาไม้มาปู ถ้าระเบียงปูด้วยไม้ มันจะให้อารมณ์เหมือนอยู่บ้านไม้โบราณ หรือรีสอร์ต ด้านล่างพื้นไม้ เป็นคานที่ยกให้สูงจากพื้น มีท่อน้ำทิ้ง เมื่อฝนตก น้ำจะระบายไหลลงท่อ โดยน้ำไม่ขังอยู่ใต้พื้นไม้ ทำให้ไม้ไม่เปื่อย หรือผุ?

ในแต่ละห้องแม้ว่าจะมีการดีไซน์แตกต่างกันอย่างสินเชิง แต่ไอเดียในการจัดพื้นที่ให้ดูลงตัว และไม่รู้สึกอึดอัด มิหนำซ้ำดูสบายตา ทั้งยังเล่น Lighting เพื่อให้มุมแต่ละส่วนภายในห้องดูมีมิติ และได้บรรยากาศ สนุกๆ ร่าเริง ให้วันพักผ่อนในบ้านได้บรรยากาศเหมือนอยู่ท่ามกลางรีสอร์ตไงครับ




        ที่มาข้อมูล  www.baanstory.com