1. จัดของตามการใช้งาน
คุณลองคิดดูว่ามีอุปกรณ์อะไรบ้างที่คุณต้องใช้บ่อย ๆ เช่น เครื่องปิ้งขนมปัง สำหรับมื้อที่แสนเร่งรีบในตอนเช้า หรือจะเป็นเครื่องอบแซนวิช สำหรับเมนูอาหารว่างแบบง่าย ๆ หรือกระทะสำหรับเตรียมมื้อค่ำแสนอร่อย แยกอุปกรณ์ใช้บ่อยเหล่านั้นออกมา แล้ววางไว้ในที่ที่คุณสามารถหยิบใช้ได้สะดวก เช่น บนเคาน์เตอร์ โต๊ะ หรือแขวนไว้ที่ฝาผนัง คราวนี้จะหยิบใช้หรือจะเก็บก็ง่ายดาย ส่วนที่เหลือก็จัดเก็บใส่ตู้ให้เรียบร้อยเพื่อความเป็นระเบียบ เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ห้องครัวสะอาด ๆ กลับมาแล้วค่ะ
2. แยกหมวดหมู่ของใช้
การจัดหมวดหมู่ด้วยการเก็บของประเภทเดียวกันไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น หม้อ กระทะ ตะหลิว หรืออุปกรณ์อื่น ๆ แบ่งหมวดหมู่ตามชนิดของสิ่งของ หรือจะแยกเฉพาะอุปกรณ์ที่ใช้คู่กันเอาไว้ด้วยกันในที่ที่คุณสามารถหยิบใช้ได้สะดวกก็ได้นะ นอกจากนี้ยังควรแยกเก็บของแตกง่าย เช่น แก้วน้ำ หรือ จานชาม เอาไว้ต่างหาก เพื่อความสวยงานของห้องครัว และความปลอดภัยของคุณเอง ที่สำคัญอย่าลืมเก็บให้พ้นมือเด็กด้วยนะคะ
3. เพิ่มพื้นที่เก็บของ
การเก็บของไม่ได้จำกัดอยู่แค่ตู้เก็บของเพียงอย่างเดียว แต่คุณสามารถจัดเก็บได้ด้วยวิธีอื่น ๆ เช่น ราวแขวนหม้อ ตะขอสำหรับผ้ากันเปื้อน กล่องน่ารัก ๆ สำหรับช้อนส้อม หรือลิ้นชักสำหรับเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดก็ได้ และเพื่อเก็บของใช้อื่น ๆ ที่คุณอาจจะต้องใช้ในคราวต่อไป
4. หยิบใช้และเก็บเข้าที่เดิม
หากคุณต้องการให้ห้องครัวเป็นระเบียบ อย่าลืมเก็บของทุกชิ้นที่หยิบมาใช้ให้เข้าที่เดิมอยู่เสมอ วิธีนี้จะช่วยให้คุณหาของได้ง่ายขึ้น หมดปัญหาเรื่องการหาข้าวของไม่เจออีกต่อไป รวมทั้งยังเพิ่มความเป็นระเบียบให้กับห้องครัวของคุณอีกด้วยนะ
5. สร้างบรรยากาศสดใส
ตกแต่งห้องครัวของคุณดให้สดใส โดยนำแจกันดอกไม้น่ารัก ๆ หรือแต่งถ้วยสวย ๆ สีลูกกวาด มาวางประดับไว้ที่มุม หรือบนเคาน์เตอร์ในห้องครัว เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศให้สดชื่น แจ่มใส สร้างความอารมณ์ดีในขณะทำครัวได้ด้วยนะคะ
เพียงแค่ลองทำตามวิธีการเหล่านี้ ก็จะช่วยลดปัญหาห้องครัวรกเลอะเทอะ และไม่ต้องเหนื่อยใจกับการหาข้าวของไม่เจออีกแล้วล่ะค่ะ เพราะห้องครัวของคุณจะเป็นระเบียบเรียบร้อย พร้อมรับแขกได้เลยล่ะ