จึงต้องมีการปรับเปลี่ยน ให้เป็นมุมที่สามารถดึงดูดสมาชิกภายในบ้าน มานั่งหย่อนกายสบายใจกันได้บ้าง โดยเราจะอธิบายเป็นส่วนดังนี้
ข้อมูลเบื้องต้น
สวนมุมบ้าน พื้นที่ติดรั้วบ้าน ขนาด 4 x 4 เมตร
ได้ร่มเงาจากต้นพันจำ ครึ่งวันบ่าย
เป็นมุมนั่งเล่นพื้นแข็ง วางเก้าอี้สนามได้
ระยะเวลาในการทำงาน 3 วัน
งบประมาณ 13,000 บาท ไม่รวมค่าแรง
วิธีทำ
ปรับพื้น
เมื่อรื้อพื้นเก่า และต้นไม้ที่เราไม่ต้องการออกแล้วทั้งหมด ก็ทำการปรับพื้นด้วยทรายหยาบ พื้นที่เก่าเคยทำสวนมาก่อนแล้วเราจึงไม่ต้องใช้ทรายมาก แค่ปรับให้ระดับเรียบเสมอกันก็เพียงพอ ทำ slope เอียงลงทางขอบที่เราจะปูทางเดินให้น้ำไหลลงได้สะดวก
1. เริ่มลงทรายหยาบเต็มบริเวณเพื่อทำการปรับพื้น
2. ฉีดน้ำให้ชุ่มพอประมาณ แล้วปาดหน้าทรายให้เรียบเสมอกัน จากนั้นฉีดน้ำอีกรอบให้ทั่ว
ปูพื้นทางเดิน
พื้นทางเดินที่เราเลือกใช้เป็นแผ่นทางเท้าซีเมนต์ขนาด 30 x 30 เซนติเมตรชนิดผิวหน้าหยาบ ราคาแผ่นละ 16 บาท ปูเรียงกันลักษณะเป็นตาราง เว้นร่องสำหรับโรยหินคัดสีดำเบอร์ 4 ราคาถุงละ 60 บาท ภาพรวมจะออกมาเป็นพื้นสีขาวดำ สีตัดกันชัดเจน เหมาะกับพื้นที่ขนาดเล็ก
1. ปูแผ่นทางเท้า โดยเว้นระยะห่างของแต่ละแผ่น 5 เซนติเมตร สำหรับโรยหิน
2. ใช้ทรายถมทับตามร่องที่เว้นไว้ จากนั้นใช้น้ำฉีดให้ทรายไหลลงไปตามร่อง
3. กรีดตาข่ายพลาสติก และวางลงไประหว่างแผ่นทางเท้า
4. เทหินคัดสีดำ เบอร์ 4 ทับลงไปบริเวณที่ตัดตาข่ายพลาสติกรองไว้ให้เต็ม
ติดตั้งโครงสวนแนวตั้ง
บริเวณกำแพงจะเป็นส่วนที่โล่งที่สุด จึงแก้ปัญหาโดยการใช้ โครงเหล็กสวนแนวตั้งขนาดใหญ่สองแผง และแผงเหล็กประเภทเสียบกระถางอีกสองแผง เพื่อเว้นจังหวะให้ดูไม่ทึบจนเกินไป ส่วนต้นไม้ที่ใช้จะเลือกไม้ที่ต้องการแสงรำไร อย่างเช่น สับประรดสี พรมญี่ปุ่น บีโกเนีย เฟินใบมะขาม เพราะมีต้นไม้ใหญ่บังแดดให้ประมาณครึ่งวัน
1. ติดโครงเหล็กสวนแนวตั้ง ขนาด 180 x 80 เซนติเมตร เข้ากับกำแพง
2. จากนั้นติดโครงเหล็กสวนแนวตั้งประเภทเสียบกระถางจำนวนสองชุด โดยกะระยะด้วยสายตาให้ได้จังหวะ
3. ใส่ไม้กระถางลงไป เน้นใช้ไม้ที่มีรูปทรงต่างกันบ้าง แต่ให้มีการดูแลรักษาที่คล้ายกันเป็นหลัก
Tips
โครงเหล็กสวนแนวตั้งขนาด 180 x 80 เซนติเมตร ราคาแผงละ 3,500 บาท
โครงเหล็กประเภทสวมกระถาง ขนาด 110 x 22 เซนติเมตร ราคาแผงละ 140 บาท
กระถางดินเผาขนาดหน้ากว้าง 4 นิ้ว ราคาใบละ 15 บาท
ม้านั่งสีขาว ราคาตัวละ 3,500 บาท
ปลูกต้นไม้
ต้นไม้พุ่ม และ คลุมดิน เน้นใช้ไม้ใบละเอียด โทนสีสว่าง มีดอกแซมบ้าง ส่วนที่ติดกับรั้วบ้านจะค่อนข้างโปร่ง จึงใช้ไทรเกาหลีปลูกเป็นรั้วให้พื้นที่นี้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ไม้คลุมดินจะมีสองชุด ด้านติดกับต้นจั๋ง ใช้ไม้ใบที่มีฟอร์มเป็นเส้นสายปลูกเป็นแนว ส่วนด้านติดกับไม้ยืนต้นใช้ไม้พุ่มใบละเอียดที่มีสีสันปลูกคลุมโคนต้น
1. ใช้ไทรเกาหลีปลูกเป็นแนวรั้ว
2. บริเวณใต้ต้นจั๋ง ปลูกไม้ใบที่มีลักษณะเป็นเส้นอย่างต้น ไอริส กล้วยไม้ดิน และ เศรษฐีเรือนนอก
3. โคนต้นไม้ใหญ่อีกด้านเป็นกลุ่มไม้พุ่มที่มีสีสัน ใช้แทนไม้ดอกเพราะบริเวณนี้ไม่มีแดดส่องถึง
4. พื้นที่โล่ง ที่เหลือปูหญ้าแทรกไปช่องว่างให้เรียบร้อย
ต้นไม้ที่ใช้
บาหยาด่าง – ไม้ พุ่มขนาดเล็ก ดอกสีชมพูเข้ม ใบผิวสัมผัสละเอียด กระจุกตัวกันแน่น ต้องการแสงแดดรำไร ดินร่วน ระบายในได้ดี เนื่องจากใบที่มีลักษณะด่าง และสามารถออกดอกในที่ร่มได้ จึงนิยมปลูกเป็นไม้พุ่มในที่ร่มบริเวณที่มีแดดไม่มากนัก
หลิวเลื้อย - ไม้ คลุมดินที่มีพุ่มใบเล็ก แผ่กิ่งก้านราบไปกับพื้น ปลายใบเรียวแหลม ดอกเป็นจุดกลมเล็กสีแดง ต้องการแดดรำไรถึงแดดจัด ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำและตอนกิ่ง
เศรษฐีเรือนนอก – ไม้คลุมดิน ลำต้นเป็นเหง้าสั้น ๆ อยู่ใต้ผิวดิน มีดอกสีขาว ใบสีเขียวเป็นมัน ขอบใบสีขาว ต้องการแสงรำไร ดินระบายน้ำดี นิยมนำมาจัดสวนถาด ปลูกคลุมดิน
ฤๅษีผสม – ไม้พุ่มขนาดเล็ก ลำต้นค่อนข้างอวบน้ำ ใบมีลวดลายและสีต่างกันตามพันธุ์ ดอกมีสีขาวอมม่วง ต้องการแสงแดดเต็มวันถึงรำไร นิยมปลูกประดับสวนเป็นแปลง มักจะมีสีสันสดใสเมื่อได้รับแสงแดดจัด
Before
After
Credit : Kapook.com