เรากำลังพูดถึงวอลเปเปอร์นั่นเอง วันนี้เราจึงอยากชวนคุณมาดูวิธีเลือกใช้วอลเปเปอร์ ว่าจะใช้อย่างไรให้เหมาะกับห้องต่าง ๆ ในบ้าน
 
ทำความรู้จักกับชนิดของวอลเปเปอร์
 
1. วอลเปเปอร์ผ้า เนื่องจากทำจากผ้าจึงให้ความรู้สึกและผิวสัมผัสที่อ่อนนุ่ม อาจเป็นผ้าไหม ผ้าลินิน หรืออื่นๆ เคลือบอยู่บนชั้นกระดาษ วอลเปเปอร์ผ้าใช้ได้ดีกับผนังห้องที่มีผิวไม่เรียบ แต่จะมีราคาแพงและทำความสะอาดยาก

2. วอลเปเปอร์แผ่นฟอยล์ เนื่องจากฟอยล์มีลักษณะเป็นมันเงา วอลเปเปอร์ชนิดนี้จึงให้อารมณ์หรูหรา เหมาะกับพื้นที่เล็ก ๆ เพราะมีราคาแพง ไม่ทนทาน และติดยาก

3. วอลเปเปอร์กระดาษ ติดง่าย สะดวก มีลวดลายให้เลือกเยอะ แต่ควรเลือกแบบเคลือบไวนิล เพื่อให้ทำความสะอาดง่าย ไม่ดูดซับน้ำ

4. วอลเปเปอร์ไวนิล นับเป็นวอลเปเปอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะไม่มีปัญหาเรื่องความเปียกชื้น คราบน้ำมัน และคราบฝุ่นเกาะ

5. วอลเปเปอร์เส้นใยสังเคราะห์ มองจากภายนอกคล้ายผ้า สามารถใช้ได้กับผนังและเพดาน มีส่วนช่วยป้องกันความร้อน สามารถใช้ได้กับทุกห้อง ยกเว้นห้องน้ำและห้องครัว เนื่องจากเป็นห้องที่มีความชื้นสูง อาจทำให้วอลเปเปอร์หลุดร่อนหรือขึ้นราได้

6. วอลเปเปอร์เนื้อโฟม เนื้อวอลเปเปอร์จะหนาและมีลายนูนออกมา นิยมใช้ติดเพดานเพราะมีคุณสมบัติช่วยเก็บเสียง
 

 room’s tip  

ควรเลือกซื้อวอลเปเปอร์จากตัวแทนจำหน่ายที่อยู่ใกล้บ้าน เพื่อความสะดวกในการติดตั้งและติดตามงาน  เพราะนอกเหนือจากค่าติดตั้งแล้ว ตัวแทนจำหน่ายมักคิดค่าดำเนินการเพิ่มเติมตามระยะทางด้วย ฉะนั้นการเลือกตัวแทนฯ ใกล้บ้านจึงช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มากทีเดียว
 

เตรียมพื้นที่ก่อนติดวอลเปเปอร์

 คุณสามารถติดวอลเปเปอร์ได้ทุกพื้นผิว ขอให้เป็นพื้นผิวที่เรียบสนิทจะได้ติดง่าย และช่วยรักษาวอลเปเปอร์ให้คงทนยาวนาน แต่สำหรับผนังปูนที่ลอกร่อน เราควรให้ช่างกะเทาะส่วนที่ลอกนั้นออกก่อน จากนั้นจึงค่อยทาสีรองพื้นสีขาวเพื่อให้ผนังเรียบเนียน
 
เหตุผลที่ต้องทาสีก็เพื่อป้องกันสารเคมีที่มีฤทธิ์เป็นด่างจากเนื้อปูนซึมและระเหยออกมาจนทำให้วอลเปเปอร์มีรอยด่าง เหลือง และซีด
 
นอกจากนี้ถ้าบริเวณไหนมีน้ำรั่วซึมก็ควรแก้ไขให้เรียบร้อยก่อนติดวอลเปเปอร์ลงไป เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเชื้อรา รวมถึงป้องกันไม่ให้วอลเปเปอร์อืดพองหรือหลุดร่อนก่อนเวลา
 
ถ้าใครติดวอลเปเปอร์ไว้ที่ผนังอยู่แล้วก็ควรลอกของเดิมออกก่อน แล้วทำความสะอาดผนังด้วยฟองน้ำชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดให้ทั่ว  ทิ้งผนังให้แห้งสนิทสักพักแล้วจึงค่อยติดวอลเปเปอร์ ทั้งนี้ก็เพื่อไม่ให้เกิดความชื้นสะสมซึ่งเป็นผลให้ติดวอลเปเปอร์ไม่เรียบสนิทนั่นเอง

credit : blog.eduzones.com