หากใครกำลังคิดไม่ตก ว่าจะเลือกใช้สีอะไรดี ก็ลองอ่านคำแนะนำเหล่านี้ไว้ประกอบการตัดสินใจกันหน่อยดีกว่า


 1. พิจารณาจากแสงสว่างภายในบ้าน

ก่อนอื่นควรจะพิจารณาจากแสงสว่างภายในตัวบ้านเสียก่อน เพราะแสงสว่างค่อนข้างมีความสำคัญกับการเลือกซื้อสีทาบ้านมากเลยทีเดียว โดยสำหรับสีขาว หรือสีอ่อน ๆ อย่างสีครีม สีเบจ หรือสีโอลด์โรส จะช่วยเพิ่มความสว่างและความกว้างให้กับบ้านของคุณได้มากกว่าสีเข้ม แต่ทั้งนี้ไม่ควรนำไปใช้กับห้องใต้ดิน หรือบ้านที่หันหน้าไปทางทิศเหนือ เพราะจะทำให้บ้านดูสลัว ๆ และให้ความรู้สึกหดหู่มากกว่า ส่วนสีเข้มหรือสีทึบ ๆ อย่างสีน้ำตาล สีดำ หรือสีน้ำเงิน ถึงแม้อาจจะไม่ทำให้บ้านดูสว่างมากนัก แต่ก็ช่วยให้บ้านที่โล่งจนเกินไป ดูลงตัวขึ้นได้เหมือนกัน


 2. สีกลาง ๆ อาจไม่ใช่คำตอบเสมอไป

คุณอาจจะคิดว่าสีเบจ สีน้ำตาลอมเทา หรือสีเทา เป็นสีที่ตกแต่งบ้านได้ง่ายที่สุดแล้ว เพราะเป็นสีกลาง ๆ ที่สามารถเข้าได้ง่ายกับสีอื่น ๆ แต่ที่จริงแล้วสีเหล่านี้ก็ไม่ใช่คำตอบสุดท้ายเสมอไปหรอกนะคะ เพราะสีที่กลางเกินไปก็ดูน่าเบื่อเหมือนกัน ฉะนั้นทางที่ดีลองจะใช้โทนสีที่อ่อนลงหรือเข้มขึ้นสักเฉดสองเฉด หรือผสมสีให้ได้โทนใหม่เพื่อเพิ่มความสดใสให้กับบ้านดีกว่า อย่างเช่น สีชมพูเบจ หรือสีเทาอ่อน เป็นต้น







 3. เช็กสีให้ชัวร์แล้วค่อยตัดสินใจ

หลังจากที่คุณตัดสินใจเลือกสีทาบ้านได้แล้ว ก็อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจซื้อ เพราะสีที่ซื้อมาอาจจะไม่ใช่โทนสีอย่างที่คุณต้องการ ฉะนั้นคุณควรพิจารณาสีจากการใช้งานจริง ที่สำคัญการเลือกใช้สีทาบ้านก็ไม่ควรให้ความสำคัญกับเรื่องแบรนด์ของสีมากนัก เพราะสีในแบรนด์ที่คุณชอบอาจจะไม่ตรงกับความต้องการของคุณก็ได้ ดังนั้นคุณควรจะใส่ใจเนื้อสีตามความเป็นจริง และตามความต้องการของคุณดีกว่า


4. เปรียบเทียบกับของต่าง ๆ ภายในบ้าน
 
เมื่อได้เฉดสีตามที่คุณต้องการแล้ว ให้นำสีที่ได้มาเทียบกับกับจุดต่าง ๆ ในบ้านของคุณ อาทิ พื้นบ้าน พื้นที่บริเวณข้างหน้าต่าง หลังงานศิลปะ และเทียบกับเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ อย่างเช่น ตู้โชว์ โซฟา เตียงนอน และควรนำไปเทียบตามช่วงเวลาต่าง ๆ ด้วยทั้งตอนเช้า ตอนกลางวัน ตอนเย็น และช่วงค่ำด้วยก็ยิ่งดี เพราะวิธีนี่จะช่วยให้ได้สีที่ถูกใจมากยิ่งขึ้น


5. ทดสอบสีก่อนตัดสินใจ

ตรวจสอบสีที่คุณเลือกมาให้แน่ใจอีกครั้ง โดยการซื้อสีนั้นมาแล้วเพ้นท์ลงบนแผ่นตัวอย่าง แล้วนำไปติดไว้บนผนังตามส่วนต่าง ๆ ของบ้าน หรือพื้นที่ที่คุณต้องการ แล้วทิ้งเอาไว้อย่างน้อย 2 วันเพื่อสังเกตความเหมาะสมของสีตามการใช้งานจริง และดูการเปลี่ยนแปลงของเนื้อสีด้วย หากได้ตามที่คุณต้องการก็ไม่ต้องลังเลแล้วล่ะ 


 การเลือกซื้อสีทาบ้านนั้นนอกจากจะเลือกตามความชอบของคุณแล้ว ก็ควรจะดูความเหมาะสมต่าง ๆ ภายในบ้านด้วย ทั้งสไตล์การตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ รวมไปถึงของใช้ต่าง ๆ เพื่อให้บ้านของคุณสวยงามมากยิ่งขึ้นนะคะ



credit : home.kapook.com