นอกจากจะต้องศึกษาวิธีการใช้ที่ถูกต้องแล้ว ก็ควรจะศึกษาวิธีดูแลเอาไว้ด้วยเหมือนกัน เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานเครื่องดูดฝุ่นให้นานขึ้่น
1. สายไฟ
เนื่องจากเครื่องดูดฝุ่นส่วนใหญ่จะมีปุ่มกดสำหรับเก็บสายแบบอัตโนมัติ ดังนั้นก่อนที่คุณจะเก็บสายไฟ ควรจัดสายไฟให้ตรงเสียก่อน แล้วค่อยม้วนเก็บเข้าไปจะดีกว่า และในช่วงที่คุณดึงสายไฟออกมาใช้ ก็ควรตรวจเช็คความผิดปกติบนสายไฟด้วยว่า โค้งงอ บิดเบี้ยว หรือมีรอยฉีกขาดบ้างหรือไม่ หากเป็นไปได้ควรเลือกใช้แบบที่มีสายดิน เพื่อป้องอันตรายเอาไว้ล่วงหน้า อีกทั้งคุณควรกะระยะสายไฟให้พอดีกับจุดที่คุณจะทำความสะอาด เพราะหากคุณใช้สายไฟสั้นเกินไป สายไฟอาจจะโดนกระตุกขาดในระหว่างที่คุณทำความสะอาดได้
2. ถุงหรือกล่องเก็บฝุ่น
หลาย ๆ คนมักจะรอให้ฝุ่นเต็มถุงหรือกล่องเก็บฝุ่นเสียก่อน แล้วค่อยนำไปทำความสะอาด ซึ๋งจริง ๆ แล้วเป็นวิธีคิดที่ผิดอย่างมาก เพราะหากฝุ่นมีมากหรือเต็มจนเกินไปจะทำให้มอเตอร์ภายในทำงานหนัก และสิ้นเปลืองพลังงานมากขึ้น ดังนั้นคุณควรหมั่นถอดถุงหรือกล่องออกมาทำความสะอาดบ่อย ๆ โดยการใช้น้ำอุ่นซักให้สะอาด จากนั้นตากทิ้งไว้ให้แห้งแล้วค่อยนำกลับมาใช้ใหม่ ส่วนเครื่องดูดฝุ่นที่ใช้ถุงกรองแบบกระดาษควรเปลี่ยนถุงเก็บฝุ่นทุกครั้งหรือเท่าที่จะเป็นไปได้
3. ฟิลเตอร์กรองอากาศ
สำหรับคนที่เคยคิดว่าแค่ทำความสะอาดถุงหรือกล่องเก็บฝุ่นก็สะอาดพอแล้ว คงต้องคิดใหม่ได้แล้วจ้า เพราะอุปกรณ์อย่าง ฟิลเตอร์ ก็สำคัญไม่น้อยไปกว่ากันเลย เพราะฟิลเตอร์มีหน้าที่กรองฝุ่นภายในตัวเครื่อง เพื่อไม่ให้ฝุ่นที่ถูกดูดเข้ามา ฟุ้งออกไปด้านนอกตัวเครื่อง ดังนั้นในส่วนนี้ก็ควรจับมาทำความสะอาดเช่นกัน โดยใช้น้ำเปล่าล้างฝุ่นออกให้สะอาด หรือใช้แปรงนุ่ม ๆ ขัดฝุ่นออกเบา ๆ จากนั้นนำไปตากให้แห้ง แล้วค่อยนำกลับมาใส่ที่เดิม
4. ท่อดูดฝุ่น
ท่อดูดฝุ่นมักจะมีหัวแปรงขนาดต่าง ๆ มาด้วยเสมอ ทั้งนี้ควรเลือกลักษณะหัวแปรงให้เหมาะสมกับพื้นที่ที่ต้องทำความสะอาด อีกทั้งไม่ควรนำเครื่องดูดฝุ่นดูดหรือทำความสะอาดบริเวณที่มีของเหลว เศษอาหาร หรือของมีคมตกหล่นอยู่ เพราะของเหล่านั้นจะสร้างความเสียหายให้กับตัวเครื่องได้ นอกจากนี้ก่อนที่จะนำไปใช้ควรจะประกอบข้อต่อและชิ้นส่วนต่าง ๆ ให้แน่นเสียก่อน เพื่อป้องกันการรั่วไหลของอากาศ
5. ล้อของเครื่องดูดฝุ่น
สิ่งหนึ่งที่คุณควรจะต้องระวังเป็นพิเศษก็คือ ล้อของเครื่องดูดฝุ่น โดยเฉพาะบ้านที่ตกแต่งด้วยพื้นไม้ เพราะอาจเกิดรอยขีดข่วนได้ง่ายในระหว่างการทำความสะอาด ในกรณีนี้คุณควรนำฟองน้ำหรือพลาสติกมาหุ้มล้อของเครื่องดูดฝุ่นเสียก่อน ก็จะช่วยป้องกันการเกิดรอยขีดข่วนหรือรอยสกปรกอื่น ๆ ได้
6. มอเตอร์
ในกรณีที่คุณได้ยินเสียงแปลก ๆ กลิ่นไหม้ หรือความผิดปกติอื่น ๆ ไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะถึงแม้ภายนอกจะดูปกติและยังสามารถใช้การได้ดี แต่อาการเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าภายในเริ่มมีบางอย่างผิดปกติแล้วล่ะ ดังนั้นคุณควรนำไปให้ผู้เชี่ยวชาญหรือช่างซ่อมบำรุงตรวจเช็กโดยละเอียดตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะหากปล่อยเอาไว้ความเสียหายอาจเพิ่มขึ้น หรืออาจจะต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่ไปเลยก็ได้ และก่อนที่คุณจะนำเครื่องดูดฝุ่นไปซ่อม ควรตรวจเช็กระยะประกันของเครื่องด้วยนะคะว่าหมดอายุแล้วหรือยัง
7. ตัวเครื่องภายนอก
หากคุณอยากให้ตัวเครื่องดูดฝุ่นดูใหม่และน่าใช้อยู่เสมอ ควรหมั่นเช็ดภายนอกตัวเครื่องเป็นประจำ ด้วยผ้านุ่มชุบน้ำบิดหมาด ๆ ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันเครื่องและแอลกอฮอล์นะคะ เพราะอาจทำปฏิกิริยากับสีและพลาสติกที่หุ้มตัวเครื่องจนเสียหายได้ หลังจากการทำความสะอาดควรนำเครื่องดูดฝุ่นไปเก็บไว้ในสถานที่โล่งและสามารถระบายอากาศได้ดี เพื่อป้องกันการกระทบกระแทกและอุปกรณ์สูญหาย
ใครที่ไม่เคยตรวจเช็กเครื่องดูดฝุ่นของตัวเองเลย ก็ลองนำวิธีเหล่านี้ไปใช้ดูนะคะ เพราะการหมั่นตรวจเช็กและทำความสะอาดเครื่องดูดฝุ่น นอกจากจะช่วยรักษาสภาพระบบการทำงานของเครื่องดูดฝุ่นแล้ว ยังช่วยให้เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของเครื่องดูดฝุ่นอีกด้วย คราวนี้ไม่ว่าจะผ่านไปอีกกี่เดือนกี่ปี รับรองเลยว่าเครื่องดูดฝุ่นจะอยู่คู่บ้านของคุณไปได้อีกนานเลยล่ะ
credit : home.kapook.com
