1. ลุคหรูหราไฮโซ
สำหรับคนที่ชอบความอลังการมีสไตล์ คุณควรติดผ้าม่านให้ยาวระพื้นเข้าไว้ และเลือกแบบที่มีรอยจีบชัด ๆ รวมทั้งเลือกผ้าที่ดูหนามีน้ำหนัก และสีสันเรียบ ๆ แบบผู้ใหญ่ด้วย จะได้ทิ้งตัวสวย ดูโอ่อ่ามีราคามากขึ้น ทั้งนี้ไม่จำเป็นต้องหาเชือกมารัดเวลาจะเปิดผ้าม่านรับแสงสว่างหรอกนะ แต่แค่ดันผ้าม่านไปด้านข้างให้เห็นวิวด้านนอกชัด ๆ ก็พอแล้ว จะได้เห็นรอยจีบเด่น ๆ ยังไงล่ะ
2. น่ารักสดใสเหมาะกับห้องเด็ก
สำหรับห้องที่ดูน่ารักไร้เดียงสาอย่างห้องของลูก ๆ นั้น คุณควรเลือกใช้ผ้าม่านสีสันสดใสสะดุดตา และมีน้ำหนักเบา ให้ดูสบาย ๆ สมกับเป็นห้องเด็กจริง ๆ ส่วนเรื่องความยาวนั้น เลือกแบบที่ไซส์กลาง ๆ ก็พอ ไม่ต้องถึงกับยาวลากพื้นหรือสั้นเกินไปหรอก ทั้งนี้หากต้องการให้ดูเด่นขึ้นอีก อาจเลือกแบบที่มีลายน่ารักน่าสนใจมาใช้ก็ได้นะ
3. เบาสบายแบบชิล ๆ
ผ้าม่านที่ดูเรียบง่าย เหมาะกับบรรยากาศชิล ๆ แบบนี้ เข้ากับห้องที่ไม่เน้นการตกแต่งมากอย่างห้องโถงหรือที่นั่งพักริมสวนด้านนอกเป็นที่สุด เพราะช่วยให้ห้องดูสว่างสดใส และโล่งสบายตามากขึ้นด้วย ซึ่งผ้าม่านแนวนี้ต้องเป็นแบบที่มีจีบแข็ง และมีความยาวระพื้นเช่นกัน เพียงแต่ควรเป็นแบบที่ดูเรียบง่ายสบายตาหน่อยเท่านั้นเอง ยิ่งไปกว่านั้นเวลาจะเปิดม่านออก หากใช้ผ้ารัดเอาไว้ก็จะยิ่งดูน่ารักเข้าไปใหญ่
4. หวานแหววโรแมนติก
มาพูดถึงคู่รักที่อยากจะได้บรรยากาศสวีทหวานโรแมนติกรับวันวาเลนไทน์กันบ้าง หากคุณต้องการจะมีห้องนอนที่ช่วยเสริมชีวิตรักให้สดใสซาบซ่าขึ้น ก็ควรเลือกผ้าม่านลูกไม้คลาสสิกแบบเจ้าหญิง พร้อมสีอ่อนโยนสบายตาแบบพาสเทลซึ่งมีความยาวพอดี ๆ มาใช้ แต่ถ้าคิดว่ายังไม่หวานแหววพอ อาจหาผ้าม่านลูกไม้สีขาวโปร่งมาขึงรอบเตียงอีกทีจะยิ่งได้บรรยากาศขึ้นอีก
5. เรียบง่ายสไตล์พื้นบ้าน
ห้องที่เต็มไปด้วยเครื่องไม้เครื่องมือเต็มไปหมดอย่างห้องครัว เพมาะกับผ้าม่านเรียบ ๆ แนวนี้มากที่สุด เพราะไม่ดูหรูหราเกินไป เข้ากับความเรียบง่ายของห้องได้พอดิบพอดี ซึ่งผ้าม่านที่คุณเลือกใช้ ควรมีสีเข้ากับสีหลักของห้อง และเอาแบบสั้นพอดีหน้าต่างก็พอ อาจจะเป็นผ้าม่านแบบพับก็ได้ จะได้ไม่ยาวรุ่มร่ามจนเกะกะรำคาญตาและสกปรกง่าย
credit : home.kapook.com