1.ต้องตัดแต่งกิ่งต้นไม้ยืนต้นให้โปร่งก่อนจะเข้าหน้าฝน
ถ้า กิ่งก้านทึบมากเกินไป จะทำให้กิ่งฉีกหักง่าย เพราะน้ำฝนที่เกาะบนใบไม้ในปริมาณมาก จะมีน้ำหนักมากขึ้น ทำให้กิ่งฉีกขาดเสียหาย นอกจากนี้หน้าฝนจะมีพายุและลมแรงกระโชก ทำให้กิ่งไม้ฉีกขาดหรือหักได้เช่นกัน
2.ต้องมั่นใจว่าพื้นที่ปลูกต้นไม้ไม่มีน้ำท่วมขัง
ถ้า มีน้ำท่วมขังแล้วจะทำให้ต้นไม้เกิดอาการรากเน่า ควรจะปรับเนินดินเพื่อไม่ให้น้ำขังบริเวณโคนต้น ถ้าทำเนินดินแล้วต้นไม้ยังแสดงอาการได้น้ำมากเกินไปอยู่อีก ควรจะทำระบบระบายน้ำจากบริเวณรอบโคนต้นไม้ ให้น้ำไหลออกไปเร็วที่สุด แต่ควรระวังปริมาณดินที่มาปรับทำเนิน จะทำให้เกิดอันตรายต่อต้นไม้ได้ ถ้าหากการถมดินนั้นกลบโคนต้นไม้มากเกินไป
3.ควรฉีดยา พ่นยา ป้องกันกำจัดเชื้อรา (ใช้ยาชีวภาพ)
เพราะเชื้อราคือสาเหตุที่ทำให้ผลผลิตและคุณภาพของพืชพรรณลดลง
4.หมั่นกำจัดวัชพืชที่ขึ้นปกคลุมต้นไม้เป็นประจำ
เพราะ หน้าฝนวัชพืชจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว และขึ้นปกคลุมต้นไม้ แย่งอาหารและแสงแดด ทำให้ต้นไม้อ่อนแอ ตลอดจนเป็นแหล่งสะสมเชื้อราและโรคพืช ถ้าหากปล่อยให้วัชพืชโตเกินไป จะทำให้กำจัดยาก และเสียค่าใช้จ่ายสูง
5.ควรพรวนดิน
เพื่อให้ดินมีโอกาสแห้งในระดับผิวดินบ้าง และรากต้นไม้ที่อยู่ในระดับหน้าดินจะได้รับออกซิเจนบ้าง
6.ไม่ควรใส่ปุ๋ยมากเกินไป
หรือถ้าใส่ ต้องรีบพรวนดินเพื่อให้ดินกลบปุ๋ย ก่อนที่น้ำฝนจะชะล้างปุ๋ยให้ไหลไปที่อื่น ซึ่งถือเป็นการสิ้นเปลือง
7.สำหรับต้นไม้ที่ปลูกใหม่ ควรค้ำยันให้ดี
เพราะ ยังไม่มีรากที่จะยึดเกาะดินพยุงลำต้นอยู่ได้ด้วยตัวเอง อีกทั้งลมแรงอาจทำให้ต้นไม้ที่ปลูกใหม่โอนเอนไปตามลม ซึ่งทำลายระบบรากที่กำลังแตกออก อาจทำให้ต้นไม้ชะงักการเจริญเติบโตได้
ขอบคุณข้อมูลจาก:http://webboard.home.sanook.com
ถ้า กิ่งก้านทึบมากเกินไป จะทำให้กิ่งฉีกหักง่าย เพราะน้ำฝนที่เกาะบนใบไม้ในปริมาณมาก จะมีน้ำหนักมากขึ้น ทำให้กิ่งฉีกขาดเสียหาย นอกจากนี้หน้าฝนจะมีพายุและลมแรงกระโชก ทำให้กิ่งไม้ฉีกขาดหรือหักได้เช่นกัน
2.ต้องมั่นใจว่าพื้นที่ปลูกต้นไม้ไม่มีน้ำท่วมขัง
ถ้า มีน้ำท่วมขังแล้วจะทำให้ต้นไม้เกิดอาการรากเน่า ควรจะปรับเนินดินเพื่อไม่ให้น้ำขังบริเวณโคนต้น ถ้าทำเนินดินแล้วต้นไม้ยังแสดงอาการได้น้ำมากเกินไปอยู่อีก ควรจะทำระบบระบายน้ำจากบริเวณรอบโคนต้นไม้ ให้น้ำไหลออกไปเร็วที่สุด แต่ควรระวังปริมาณดินที่มาปรับทำเนิน จะทำให้เกิดอันตรายต่อต้นไม้ได้ ถ้าหากการถมดินนั้นกลบโคนต้นไม้มากเกินไป
3.ควรฉีดยา พ่นยา ป้องกันกำจัดเชื้อรา (ใช้ยาชีวภาพ)
เพราะเชื้อราคือสาเหตุที่ทำให้ผลผลิตและคุณภาพของพืชพรรณลดลง
4.หมั่นกำจัดวัชพืชที่ขึ้นปกคลุมต้นไม้เป็นประจำ
เพราะ หน้าฝนวัชพืชจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว และขึ้นปกคลุมต้นไม้ แย่งอาหารและแสงแดด ทำให้ต้นไม้อ่อนแอ ตลอดจนเป็นแหล่งสะสมเชื้อราและโรคพืช ถ้าหากปล่อยให้วัชพืชโตเกินไป จะทำให้กำจัดยาก และเสียค่าใช้จ่ายสูง
5.ควรพรวนดิน
เพื่อให้ดินมีโอกาสแห้งในระดับผิวดินบ้าง และรากต้นไม้ที่อยู่ในระดับหน้าดินจะได้รับออกซิเจนบ้าง
6.ไม่ควรใส่ปุ๋ยมากเกินไป
หรือถ้าใส่ ต้องรีบพรวนดินเพื่อให้ดินกลบปุ๋ย ก่อนที่น้ำฝนจะชะล้างปุ๋ยให้ไหลไปที่อื่น ซึ่งถือเป็นการสิ้นเปลือง
7.สำหรับต้นไม้ที่ปลูกใหม่ ควรค้ำยันให้ดี
เพราะ ยังไม่มีรากที่จะยึดเกาะดินพยุงลำต้นอยู่ได้ด้วยตัวเอง อีกทั้งลมแรงอาจทำให้ต้นไม้ที่ปลูกใหม่โอนเอนไปตามลม ซึ่งทำลายระบบรากที่กำลังแตกออก อาจทำให้ต้นไม้ชะงักการเจริญเติบโตได้
ขอบคุณข้อมูลจาก:http://webboard.home.sanook.com