1.ทำไมต้องให้ความสำคัญกับเรื่องการจัดแสงไฟ
เหตุผลแรกเลยก็คือการจัดแสงไฟที่ถูกต้องมีผลต่อสุขภาพดวงตา
ไฟที่มืดไปจะทำให้กล้ามเนื้อม่านตาทำงานหนัก
แต่ถ้าสว่างไปก็จะมีผลต่อจอประสาทตา
เหตุผลต่อมาคือเรื่องของการใช้งานที่เหมาะสม
การจัดแสงไฟทำให้ใช้พื้นที่ในบ้านได้คุ้มค่า
และอีกเหตุผลก็คือเรื่องของอารมณ์ความรู้สึกที่จะช่วยเพิ่มความสุขในการใช้
เวลาในบ้านได้ เพราะแสงไฟมีผลให้อารมณ์และความรู้สึกของเราเปลี่ยนไป
และช่วยเสริมสร้างบรรยากาศภายในบ้านของคุณให้อบอุ่นน่าอยู่ยิ่งขึ้น
2.การจัดไฟทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นไหม
การออกแบบจัดแสงไฟที่เราต้องลงรายละเอียดกับการเลือกใช้ไฟในจุดต่างๆ
นั้นเป็นขั้นตอนที่ดูเหมือนจะทำให้เรามีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นนั้น จริงๆ
แล้วเป็นการป้องกันค่าใช้จ่ายที่อาจตามมาภายหลังได้
เพราะถ้าเราเลือกใช้ไฟให้เหมาะกับจุดประสงค์ของแต่ละห้องและความต้องการของ
เราแต่แรกแล้ว
โอกาสที่จะต้องปรับเปลี่ยนหลอดไฟหรือติดตั้งเพิ่มเติมในภายหลังก็จะลดลง
ทำให้เราใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ด้วยการจ่ายเงินเพียงครั้งเดียว
นอกจากนั้นยังประหยัดค่าไฟด้วย
การจัดแสงไฟภายในบ้านจะช่วยให้บ้านของคุณใช้ไฟที่ถูกต้องตามการใช้งาน
และเพื่อการใช้งานในระยะยาว
ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ
และช่วยคุณในการประหยัดไฟในระยะยาว
เพื่อให้ได้แสงสว่างตรงตามความต้องการและช่วยคุณประหยัดไฟเพิ่มอีกด้วย
3.ควรมีงบประมาณแค่ไหนในการจัดแสงไฟภายในบ้าน
คำถามนี้ตอบยากอยู่สักหน่อยเนื่องจากงบประมาณของแต่ละคนไม่เท่ากัน
ทั้งยังขึ้นอยู่กับขนาดของบ้านและจำนวนห้องด้วย
แม้จะมีงบแค่ไม่กี่พันบาทก็สามารถทำได้
ขึ้นอยู่กับไอเดียและการเลือกผลิตภัณฑ์
แต่เรื่องที่น่าสนใจและควรรู้ไว้อย่างหนึ่งก็คือการจัดแสงไฟในบ้านใหม่มักจะ
ใช้งบประมาณน้อยกว่าการแก้ไขไฟในบ้านที่อยู่อาศัยมาแล้ว ดังนั้น
การออกแบบแสงไฟแต่แรกจะช่วยให้ควบคุมงบประมาณเรื่องนี้ได้มากกว่า
4.หน้าที่ออกแบบแสงไฟเป็นของใคร
ตามอาชีพแล้ว
คนที่จะทำหน้าที่นี้ได้สมบูรณ์ที่สุดก็คือนักออกแบบแสงไฟ หรือที่เรียกว่า
lighting designer นั่นเอง
เพราะนักออกแบบประเภทนี้จะมีความรู้ความเข้าใจในไฟประเภทต่างๆ
ที่เข้ากับการใช้งานในแต่ละส่วนของบ้าน รวมถึงเรื่องความสวยงามด้วย
แต่หากเจ้าของบ้านเองมีความรู้ความเข้าใจว่า
การเลือกแสงไฟไม่ได้มีผลแต่เฉพาะการใช้งาน
แต่ยังมีผลต่ออารมณ์ความรู้สึกด้วย
มาบวกกับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านแสงไฟที่ช่วยให้คำแนะนำปรึกษาด้านแสง
สว่างจากแบรนด์หลอดไฟที่น่าเชื่อถือ
ก็จะสามารถเลือกไฟที่เหมาะกับบ้านตัวเองได้เช่นกัน
5.เป็นไปได้ไหมถ้าชอบจัดปาร์ตี้บ่อยๆ แต่ก็อยากได้ห้องนั่งเล่นที่ดูอบอุ่นในเวลาธรรมดา
สองอย่างนี้อาจจะฟังดูขัดแย้งกัน
แต่ก็เป็นไปได้ด้วยการจัดแสงไฟ เพราะเราสามารถเลือก ambient light
หรือไฟที่ให้แสงสว่างเป็นหลักในห้อง
เป็นไฟที่เราใช้ตามปกติทุกวันซึ่งเรื่องของฟังก์ชันการใช้งานมาก่อนเรื่อง
ของความสวยงาม ให้ออกโทนอบอุ่นหรือโทนขาว
เพื่อบรรยากาศที่ต้องการทำกิจกรรมในห้อง เพียงเปลี่ยนหลอดไฟที่มี 2
โทนสีและเพิ่มไฟประดับตกแต่งที่เรียกว่า decorative light
ในห้องเดียวกันให้มีลูกเล่นที่เหมาะกับการจัดปาร์ตี้ที่ต้องการสีสันและความ
คึกคัก ซึ่งสามารถเลือกได้ทั้งการซ่อนหลอดไฟไว้ตามหลืบฝ้าเพดานหรือผนัง
หรือเลือกใช้โคมไฟเปลี่ยนสีสันต่างๆ ที่ตัดกับโทนปกติของห้อง อย่างเช่น
ใช้ไฟ Strip Light LED RGB ที่ให้คุณสนุกในยามที่คุณจัดปาร์ตี้
หรือเลือกใช้โคมไฟส่องกำแพงย้อมสีของกำแพง
เพื่อให้บรรยากาศดูครื้นเครงยิ่งขึ้น
6.ถ้าจะรีโนเวทบ้าน ต้องเปลี่ยนไฟด้วยไหม
คำถามนี้ขึ้นอยู่กับว่าการรีโนเวทนั้นจะเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานของแต่ละ
ห้องหรือเปล่า ถ้าเปลี่ยน
ความสว่างของหลอดไฟที่เลือกมาใช้ก็ควรจะต้องเปลี่ยนไปด้วย
และในกรณีที่การใช้งานยังเหมือนเดิมก็ต้องดูต่อว่า โทนสีหลักภายในห้อง
อย่างเช่นผนังหรือเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ๆ เปลี่ยนไปด้วยหรือไม่ ถ้าเปลี่ยน
ก็ควรจะปรับไฟที่ใช้ด้วย
เพื่อให้ห้องที่รีโนเวทใหม่ออกมาตรงกับอารมณ์ความรู้สึกที่ต้องการ
7.จะรู้ได้อย่างไรว่าไฟแบบไหนที่มืดเกินไปและไฟแบบไหนที่สว่างเกินไป
แสงสว่างที่ควรใช้ปกติจะอยู่มีค่าความสว่างอยู่ที่ 500
ลักซ์ ซึ่งสามารถวัดได้จากเครื่องลักซ์มิเตอร์ หรือสังเกตง่ายๆ ด้วยตัวเอง
เพราะเวลาเราอยู่ในห้องที่ไฟมืดเกินไป
กล้ามเนื้อตาเราจะทำงานหนักขึ้นโดยอัตโนมัติ
ลักษณะการใช้สายตาจะใกล้เคียงกับการเล่นโทรศัพท์มือถือเวลาปิดไฟที่เมื่อ
เล่นไปไม่นาน เราจะรู้สึกถึงอาการเมื่อยตา แต่ถ้าเจอกับไฟที่สว่างเกินไป
เราจะรู้สึกแสบตาจากความจ้าของแสงไฟ
เราควรเลือกใช้แสงในระดับความสว่างที่เมื่อเราใช้สายตาแล้วไม่รู้สึกถึงการ
ปวดตา แสบตา แต่รู้สึกถึงความสบายตาสำหรับห้องของเรา
8.ควรเริ่มวางแผนเรื่องแสงไฟในขั้นตอนไหนของการสร้างบ้านใหม่
ไม่ว่าจะเป็นการสร้างบ้านใหม่หรือการรีโนเวทบ้านเดิมครั้งใหญ่
เราไม่ควรรอจนออกแบบทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงค่อยมาดูเรื่องนี้
แต่ควรเริ่มลงรายละเอียดหลังจากที่สรุปฟังก์ชันและโทนหลักของห้องได้
เพราะการจัดไฟสัมพันธ์กับการวางระบบไฟและสวิตช์ตามจุดต่างๆ ด้วย
ถ้าวางแผนได้ดีตั้งแต่แรกก็จะดีกว่าการเพิ่มหรือแก้ในภายหลัง
หากเป็นการรีโนเวทบ้านเดิมและไม่สามารถแก้ไขการวางระบบไฟและสวิตช์ตามจุด
ต่างๆ ได้ อาจเลือกมองการจัดแสงไฟตามจุดที่ต้องการจะเน้น
หรือสร้างมุมสวยให้แก่ห้อง โดยการเลือกโคมไฟประดับทดแทนโคมดั้งเดิม
หรือเพิ่มเติมโคมไฟตั้งพื้น
จนถึงการเลือกหลอดไฟที่มีความถูกต้องของแสงที่ระดับ 80 ขึ้นไป
เพื่อให้สีสันบรรยากาศของห้องดูสดใสมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น
วิธีนี้จะช่วยคุณปรับแผนเรื่องแสงไฟให้แก่บ้านของคุณได้อีกด้วย
9.หลอดไฟแบบ LED ช่วยในเรื่องการออกแบบแสงไฟภายในบ้านได้อย่างไรบ้าง
ปัจจุบันมีการพัฒนาและผลิตหลอดไฟแบบ LED
ออกมาหลายโทนสีและหลายรูปแบบ
ไม่ได้จำกัดเฉพาะการใช้งานนอกอาคารหรือใช้กับอุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์เท่านั้น
เหมือนอย่างในอดีต ความหลากหลายของหลอดไฟแบบนี้ทำให้ไฟ LED
เป็นลูกเล่นให้การเพิ่มสีสันให้กับความเรียบง่ายในการออกแบบได้
แม้กระทั่งในบริเวณที่นึกไม่ถึงอย่างบริเวณราวแขวนเสื้อในห้องแต่งตัวแบบ
วอล์คอินก็สามารถทำให้ดูสวยและมีมิติมากยิ่งขึ้นได้ด้วยการซ่อนไฟชนิดนี้ไว้
เหนือราว
หรือในช่องว่างระหว่างพื้นและตู้เก็บของในห้องครัวหรือห้องนั่งเล่นที่เมื่อ
ใช้ไฟ LED แบบมีสีสัน ก็จะย้อมสีห้องให้เป็นอีกอารมณ์หนึ่งได้
10.อายุของคนในบ้านมีผลต่อการจัดไฟด้วยหรือไม่
คำถามนี้ตอบได้ทันทีว่า มีผล
ซึ่งต้องลงรายละเอียดอีกทีว่า
นอกจากห้องส่วนตัวที่ต้องจัดไฟให้เหมาะกับแต่ละคนแล้ว
ในเรื่องของพื้นที่ส่วนกลางก็ต้องดูว่าใครจะใช้ห้องไหนมากกว่ากันภายในบ้าน
อย่างเช่นห้องนั่งเล่นที่มีคุณตาคุณยายใช้เป็นประจำบ่อยกว่าหลานๆ
วัยกำลังซน
ก็อาจจะต้องเลือกแสงไฟที่คำนึงถึงการใช้งานของคุณตาคุณยายเป็นหลัก
และแสงสว่างควรมีความสว่างเพียงพอเพื่อป้องกันสายตาพร่ามัว
และป้องกันอุบัติเหตุหกล้มที่อาจเกิดขึ้นได้อีกด้วย เป็นต้น
ขอบคุณข้อมูลจาก:http://home.sanook.com