ปั้นศิลป์เสพสวน บ้านหลังน้อย ในสวนสวย

ในช่วงเวลาหนึ่งที่เกิดขึ้นจากความรู้สึก ณ ขณะนั้น ส่งผ่านไปยังงานปั้นใบหน้าคนที่มีเพียงชิ้นเดียว แบบเดียว อันเป็นอัตลักษณ์ สำคัญงานศิลปะของ คุณจำเนียร ทองมา หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ทองมา” กับหนึ่งความคิดที่ต้องการหาพื้นที่เงียบสงบ เพื่อหลีกหนีจากความวุ่นวาย แทรกตัวสู่ธรรมชาติอย่างแท้จริง จนเกิดเป็นโลกอีกหนึ่งที่เชื่อมโยงความสวยงามระหว่างงานสวน และงานศิลป์เข้าไว้ด้วยกัน

บ้านหลังนี้สร้างบนเนื้อที่กว่า 2 ไร่ ที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ติดคลองลำตะคองเล็กๆ คุณทองมาเลือกที่จะปรับปรุงพื้นที่ โดยการเก็บต้นไม้ใหญ่ไว้ให้มากที่สุด เพื่อให้สมใจกับการที่อยากมาอาศัยอยู่กับธรรมชาติจริงๆ รวมทั้งบ้านเก่าของเดิมชั้นเดียว ก็ได้รับการรีโนเวทขึ้นมาใหม่เช่นเดียวกัน คุณทองมาเล่าให้ฟังเพิ่มเติมว่า “ผมตั้งใจทำที่นี่ให้เป็น ทองมา สตูดิโอ มีงานศิลปะท่ามกลางสวนที่ร่มรื่น ในบรรยากาศสบายๆ เพื่ให้ตัวเองเพื่อนฝูง รวมทั้งคนอื่นๆ ได้มีโอกาศมารีแล็กซ์ พักผ่อนกัน ผมจึงไม่สร้างอะไรที่ต้องไปแข่งกับต้นไม้ แต่เหมือนให้เราแทรกซึมอยู่ร่วมกับธรรมชาติมากกว่า

สวนรอบๆ บ้านจะประกอบไปด้วยต้นไม้ใหญ่นานาชนิด ยังมีการนำกระถางเอิร์นสวยๆ หลากหลายลวดลายมาจัดวางตามทางเดินต่างๆ รวมทั้งนำรูปปั้นใบหน้าคนที่คุณทองมาเป็นคนปั้นเอง มาประดับประดาตามจุดต่างๆ ซึ่งก็สามารถจัดวางร่วมกันได้อย่างลงตัว ไม่ต่างอะไรจากงานศิลป์ที่กำลังเสพความร่มเย็นของสวน เฉกเช่นมนุษย์ที่สุดท้ายก็กลับคืนสู่ธรรมชาติเสมอ

ส่วนตัวบ้าน จะแย่งออกเป็น 2 หลัง ซึ่งคุณทองมารีโนเวท โดยการรักษาโครงสร้างเดิมของบ้านไว้ทั้งหมด แต่มีการทุบผนังบางส่วนเพื่อให้พื้นที่ภายในบ้านดูโปร่งโล่ง และเชื่อมต่อกัน รวมทั้งติดประตูหน้าต่างโครงเหล็กดำ แทนประตูหน้าต่างของเดิม สำหรับตัวบ้านทั้งภายใน และภายนอกต่างก็เป็นสีขาวด้วยกันทั้งหมด สำหรับการตกแต่งภายในจะเน้นไปที่ศิลปะการจัดวางเฟอร์นิเจอร์แต่ละสไตล์ให้มี องค์ประกอบที่สามารถอยู่ร่วมกันได้ บางชิ้นอาจจะมีสไตล์ที่ขัดแย้งหรูหราบ้าง ดิบด้านบ้าง แต่ก็อยู่ด้วยกันได้อย่างลงตัว ไม่ชี้นำไปสไตล์ไหนชัดเจน แต่เป็นสไตล์ที่คุณทองมาจัดวาง และตกแต่งด้วยตนเอง

เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ เป็นของเก่าเก็บที่ซื้อสะสมมาเรื่อยๆ พอบ้านที่กรุงเทพฯ เต็ม เราก็ขยับขยายมาที่ปากช่องบ้าง แต่ละชิ้นไม่ใช่ของแพงอะไรเลย แต่เป็นของที่เราถูกใจมากกว่า นำมาจัดวางเป็นมุมๆ เป็นเหมือนงานศิลป์ที่เราทำในรูปแบบหนึ่ง

เริ่มต้นกันที่บ้านหลังแรกที่ถูกนำสายตาให้เข้าถึงด้วยการทำทางเดิน โรยกรวดสลับกับแผ่นซีเมนต์สีเหลี่ยม สับหว่างคล้ายลายตารางหมากรุก ขนาบข้างด้วยว่านงาช้างที่มีใบยาว เรียวแหลมให้รูปร่างที่แปลกตาบริเวณหน้าบ้านเราจะพบกับมุมนั่งเล่นสบายๆ ใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ กับชุดโซฟาหวายสีดำ วางเบาะผ้าลายสก็อตสีส้มขาว เป็นเสมือนมุมต้อนรับเล็กๆ ก่อนเดินเข้าสู่ภายในบ้าน

สำหรับพื้นที่ภายในบ้าน คุณทองมาเลือกทำเป็นห้องนั่งเล่น จัดวางเฟอร์นิเจอร์ที่มีรูปทรงคลาสสิก เก้าอี้หนังสีน้ำตาลขาไม้ จับคู่กับคอนโซลไม้สีเขียวตั้งโดดเด่นอยู่กลางห้อง ด้านบนนำรูปปั้นฝีมือคุณทองมามาตกแต่ง พร้อมทั้งเพิ่มความสุดชื่นให้กับพื้นที่ภายในด้วยการนำเฟริ์นใบมะขามมาจัด วางเพิ่มเติม นอกจากนี้รอบๆ ด้านยังนำโคมไฟตั้งพื้นโบราณมาตกแต่งร่วมกันด้วย และเมื่อได้การจัดไฟแบบดาน์ไลท์ ทำให้บรรยากาศของห้องนี้ไม่ต่างอะไรกับแกลลอรี่ขนาดย่อมๆ เลยทีเดียว

ถัดมากับทางเชื่อมแบบเอ้าท์ดอร์ ซึ่งเชื่อมต่อไปยังบ้านหลังที่ 2 บริเวณนี้จะโดดเด่น และดึงดูดสายตามากๆ เพราะคุณทองมานำตู้คอลโซลสีแดงสดมาตั้งวาง พร้อมนำของเก่าที่สะสมไว้มาตกแต่งร่วมกัน อาทิหนังสือเก่า ขวดแก้วนกสต๊าฟ เก้าอี้หลุยส์สีทอง เก้าอี้ไม้สีขาวบุผ้าสีแดงให้งานตกแต่งที่ต่อเนื่องกันของทั้งสองหลัง


ส่วนหลังที่สองจะมีพื้นที่มากกว่าหลังแรกอยู่เล็กน้อย จึงมีการจัดวางเป็นมุมนั่งเล่นอยู่หลายต่อหลายมุม แต่ก็มีสไตล์และรูปทรงของเฟอร์นิเจอร์ที่ต่างกันไปด้วย ส่วนพื้นก็ใช้เป็นพื้นกระบื้องสีดำเก่าของบ้านหลังเดิม เริ่มจากมุมแรก มุมอ่านหนังสือกับการจับคู่กันของเก้าอี้เหล็กสีดำรูปทรงทันสมัยกับโต๊ะกลาง ไม้สีธรรมชาติ ใกล้กันมีตู้ไม้ทรงสูง หน้าบานกระจกที่มีหนังสืออยู่เต็มตู้ ถัดไปเป็นมุมเตียงนอนไม้ขัดสี ให้อารมณที่ดูดิบด้าน ผนังเหนือหัวเตียงคุณทองมานำประตูไม้เก่าสีขาวขัดถลอกมาจัดวางพิงไปกับผนัง เป็นฉากหลังที่ให้อารมร์แบบดิบๆ ที่เชื่อมหากัน นอกจากนี้ยังมีมุมนั่งเล่นเก้าอี้หลุยส์สีทองบุผ้ากำมะยี่สีเขียวสดใส โซฟาหลุย์สีทอง บุผ้าสีน้ำเงิน รูปทรงหรูหราอลังการ และเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ที่จัดวางอยู่ภายในบ้านสีขาวได้อย่างลงตัว


ขอบคุณข้อมูลจาก:http://decor.mthai.com